ค้นหา
Homeschool - Books - Bilingual - Phonics

สำหรับเด็กเล็กนั้น

“หนังสือไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับอ่าน  และแท่งไม้ไม่จำเป็นต้องเอาไว้ใช้เรียงเล่น”

บางส่วนบางตอนจากหนังสือ “รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว”

ของ “มาซารุ อิบุกะ”

 

เลือกหนังสือให้ลูกยังไงดี

 

 “จริงที่สุด!!”

จากประสบการณ์เลี้ยงลูกมาเกือบ 3 ปี

โชคดีที่ได้อ่านบทความหนังสือเด็กหลายๆบทความ  และได้ความรู้จากประสบการณ์ตรง

จนถึงขนาดยอมควักตังค์ซื้อหนังสือเด็กมือสองยกพาเลทจากต่างประเทศมาเลือกให้ลูก

เพราะหนังสือเด็กของต่างประเทศ ระดับความ“ตะมุตะมิ” สูงมาก

เด็กน้อย 0-1 ขวบ เค้ายังไม่ได้อ่านหนังสือหรอกค่ะ แต่เค้าเห็นหนังสือเป็นเพื่อน เป็นของเล่น

การให้เด็กได้หยิบจับหนังสือแต่เด็ก จึงเป็นการสร้าง “ความเป็นมิตร”

ระหว่างหนูน้อยและหนังสือ จนเด็กเกิด “ความรัก” หนังสือ

และผลพลอยได้คือ “แม่” นี่เอง

จากที่กังวลว่าเราไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย จะสอนลูกยังไง

เอาเข้าจริงๆสัญชาตญาณความเป็นแม่ก็จะนำทางเอง

จนแม่ก็ “รัก” หนังสือลูก “หลง” หนังสือเด็ก 

ตอนนี้เรียกได้เต็มปากว่า “ตกหลุมรักหนังสือเด็ก” เต็มเปา

 

**** จะเริ่มให้ลูกอ่านหนังสือเมื่อไหร่ดี?

จริงๆแม่หลายๆคนอ่านหนังสือกับลูกตั้งแต่ในท้อง แต่แรกคลอด-3 เดือน

แม่มือใหม่ (และมือเก่า) จะวุ่นกับการจัดระเบียบชีวิตมาก

เพราะพอลูกคลอดออกมาก็มีหลายสิ่งหลายอย่างต้องเรียนรู้

พอ 3 เดือน ทุกอย่างเริ่มลงตัว คอน้องเริ่มแข็ง 

3 เดือนขึ้นไป จึงเป็นวัยที่แนะนำให้เริ่มหยิบจับ รู้จักกับหนังสือค่ะ

 

******หนังสือแบบไหนที่เหมาะกับลูกของเรา?

เด็ก 0-1 ขวบ เหมะกับหนังสือที่จะเป็นเพื่อนเล่นเค้าได้

เป็นมิตร นุ่มนิ่มไม่บาดมือ

ไม่ฉีกขาดง่าย โดนน้ำลายไม่เปื่อย

ดูได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อค่ะ มีแบบไหนบ้าง ตามที่ได้เขียนไว้ด้านล่างเลยค่ะ

 

*****แล้วจะเลือกซื้อได้ที่ไหน?

สำหรับหนังสือของไทยซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป ร้านออนไลน์ก็มีเยอะแยะค่ะ

ส่วนหนังสือเด็กภาษาอังกฤษมือ 1 ซื้อได้ตามห้างค่ะ

แต่ถ้ามือ 2 ที่สภาพดีมาก ราคาถูกกว่าครึ่งก็ซื้อตามร้านขายหนังสือภาษาอังกฤษเด็กมือ 2 

มีเยอะค่ะ ลองเลือกดูตามเพจต่างๆ แต่เป็นหนังสือมือ 2 ก็จะมีอย่า.ละเล่มไป ไม่ซ้ำกัน

 

 

หนังสือเด็ก 0-1 ขวบ เลือกง่ายสบายใจ เชิญมุงจ้า

 

1.หนังสือลอยน้ำ

นุ่ม ซักได้ ไม่บาดมือ พกพาง่าย

หยิบจับสะดวก อาบน้ำไปเล่นหนังสือไปได้สบายมาก 

ส่วนมากมีคำคล้องจอง ง่ายต่อการจดจำ

เด็กเก็บข้อมูลพอถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจะอ่านให้เราฟังเองค่ะ

ลองชมคลิปน้องเวียงพิงค์พยายามอ่านหนังสือลอยน้ำ….

 

 

คำคล้องจอง อ่านง่าย จำง่าย เด็กยังอ่านไม่ได้หรอกค่ะ เขาจำแล้วพยายามเลียนแบบ

 

 

 

2.หนังสือผ้า

นุ่ม ซักได้ พกพาง่าย คุณสมบัติคล้ายๆหนังสือลอยน้ำ

แต่แตกต่างที่มีเพิ่มลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นเสียงกรอบแกรบ

บางทีมีกระจกเล็กๆไว้ในหนังสือให้เด็กส่องตัวเองด้วยค่ะ

 

 

 

 

3. หนังสือ touch and feel หรือหนังสือสัมผัส

เวลาที่เด็กเอามือจับเล่น จะมีเท็กเจอร์ต่ำๆนูนๆให้เด็กสัมผัสผิวหนังสือที่แปลกมือ

สีสันสดใส ไม่บาดมือ สร้างความสนุกสนานแปลกใหม่ให้หนูๆ

 

 

 

 

4.หนังสือลูกเล่น Noisy

เป็นหนังสือที่ใช้มือสอดเข้าไป ทำให้เจ้ากบจอมป่วนและ Monster น้อยมีชีวิต

สีสันที่สดใสรวมถึงการเคลื่อนไหวของหนังสือ

จะทำให้ดึงดูดความสนใจของหนูๆได้ค่ะ เล่นกับลูกเพลินมากค่ะหนังสือแบบนี้

 

 

 

 

 

5. หนังสือบอร์ดบุ๊คมีลูกเล่น

บอร์ดบุ๊ค คือหนังสือที่เป็นกระดาษแข็ง

นั่นหมายถึงจะ “อึด” ต่อการกัด ฉีก น้ำลายย้อยใส่ หรือขยำได้เป็นอย่างดี

เพราะทำยังไงเจ้ากระดาษแข็งๆก็เอาอยู่ค่ะ

ปกติบอร์ดบุ๊คจะมีหลากหลายมาก แต่ถ้าสำหรับเด็กเล้ก ก็ต้องมีลูกเล่นแพรวพราว มาเรียกร้องความสนใจค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

6. หนังสือบอร์ดบุ๊คอื่นๆ

หนังสือที่เป็นบกระดาษแข็ง สีสันสดใส

ส่วนมากแล้วจะเป็นเรื่องของธรรมชาติ สัตว์ต่างๆ (เด็กๆเสร็จเรื่องสัตว์ทุกราย)

เด็กควรได้ดูรูปภาพสัตว์จริงๆ คุณพ่อคุณแม่อาจต้องช่วยพาอ่าน ชี้ให้ดู

เป็นการสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัวได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

 

 

 

 

รู้ไหมคะ คนฟินแลนด์เชื่อว่า “นิสัยรักการอ่าน ต้องสร้างที่บ้านก่อน”
75 เปอร์เซ็นต์ของพ่อแม่ชาวฟินแลนด์ อ่านหนังสือให้ลูกๆฟัง
เพื่อสร้างนิสัยการอ่านที่ดีในอนาคต

พูดง่ายๆคือ ประชากรฟินแลนด์ถูกปลูกฝังเรื่องรักการอ่านตั้งแต่เด็ก
ทำให้อัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชากรฟินแลนด์ คือ 100%!!!!
และเป็นประเทศที่มีอัตราการอ่านออกเขียนได้ดีที่สุดในโลก
อ่านบทความได้ที่ >> อ่าน- อ่าน- อ่านแบบฟินแลนด์

ดูเหมือนการอ่านที่ฟินแลนด์จะเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว
ห้องสมุดเข้าฟรีทั่วประเทศ
มีรถห้องสมุดเคลื่อนที่ให้บริการ

ทำไมเรา…จะปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กๆในประเทศเราไม่ได้ล่ะ
ในประเทศเราเลยค่ะ………..ไทยแลนด์แดนที่ฉันรัก

ติดตามบทความ “หนังสือเด็ก” ไปด้วยกันนะคะ
เราจะ “เลี้ยงลูก…ด้วยหนังสือ” ไปด้วยกันค่ะ

อย่าลืมค่ะ หนังสือเด็ก ตะมุตะมิน่ารัก
ทำให้เด็กๆสนใจ
เพราะเด็ก…จะเห็นหนังสือเป็นเพื่อน เป็นของเล่น
เป็นมิตร….และรักหนังสือโดยไม่รู้ตัวนะคะ

มีหนังสืออีกประเภทหนึ่งที่เล่นได้ทุกวัยค่ะ

“หนังสือเสียง” หรือ “sound book” นั่นเอง

ครั้งหน้าจะมารีวิวหนังสือเสียงโดยเฉพาะค่ะ

 

แม่จิ๊บภูมิใจที่ได้แบ่งปันเรื่องหนังสือให้เด็ก

อยากให้เด็กๆสามารถเข้าถึง “หนังสือดีๆน่ารักสดใส อ่านได้ตามวัย อ่านแล้วมีความสุข”

จะคัดหนังสือดีๆมาแจกเด็กๆในบทความครั้งหน้าค่ะ

ใครอยากร่วมสนุกไปตามตามได้ที่แฟนเพจนะจ๊ะ    >>>> เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ

ติดตามบ้านยิ้มหวานทางช่อง >>> ยิ้มหวานแฟมิลี่ on Youtube

 

ซื้อที่ไหน >>> หนังสือลอยน้ำ หนังสือผ้าซื้อที่ร้านแว่นแก้ว
หรือซื้อออนไลน์ ลองค้นหาดูค่ะ

หนังสือเด็กอื่นๆ >> ซื้อตามร้านออนไลน์ค่ะ แม่จิ๊บหาหนังสือให้ลูกและพบว่าหนังสือต่างประเทศน่าสรใจมากแต่ราคาแพง
จึงหาตัวเลือกอื่นคือซื้อมือ 2 จนตัดสินใจซื้อยกพาเลทมา
ให้ลูกเลือกเล่มที่ชอบ เด็กชอบหนังสือต่างกันนะคะ แม่ชอบก็สะสมของแม่ไว้ แล้วแบ่งขาย
หนังสือส่วนมากมีเล่มเดียว ไม่ซ้ำเล่มค่ะ ชื่อร้านเบบี้บุ๊คไทยแลนด์ ร้านเบบี้บุ๊คไทยแลนด์
มีขายในเพจบ้างและไปเปิดขายที่ตลาดรัสติก เชียงใหม่ ที่เดียวกับตลาดเจเจ
ไม่ได้ขายเป็นล่ำเป็นสันค่ะ เพราะทำงานประจำอยู่แล้วจึงออกแนวแบ่งๆกันมากกว่า
และที่สำคัญ พอได้คลุกคลีกับหนังสือจึงมีข้อมูลมาเขียนเล่าให้ทุกคนอ่านนี่ล่ะค่ะ


แบ่งปันกันอ่าน แบ่งปันกันนะคะ หวังว่าจะเป็นตัวเลือกดีๆให้ทุกคนนะคะ

**follow us**

เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ
Instragram : yimwhanfamily
เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com
Youtube : Yimwhan Family
อีเมลล์ : [email protected]
Line Id : @yimwhanfamily

 

Author: Yimwhanfamily

Yimwhan Family แบ่งปันเรื่องราวแม่มือใหม่เลี้ยงลูกเชิงบวก ที่จัดการศึกษาทางเลือกในแบบ Life Long Learning สร้างเด็กรักการอ่าน (Read to Grow) และท่องเที่ยวสไตล์เด็กและครอบครัว โดย Real Mom "แม่จิ๊บ" Working Mom ที่มีความฝัน และ Passion คือ "เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ"  

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these <abbr title="HyperText Markup Language">html</abbr> tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>

*