ค้นหา
Kids - Hospital -Health

 

…..ลูกมีน้ำมูกไสๆ มีไข้ต่ำๆ ไอนิดหน่อย

ลูกคงไม่เป็นอะไรมาก ไม่ได้ตัวร้อนอะไร แถมก็กินได้ปกติ ไม่ได้งอแง”

แม่จิ๊บไม่รู้หรอกค่ะว่า นี่คืออาการเริ่มต้นของการติดเชื้อ RSV เชื้อร้ายที่จะมีผลต่อระบบทางเดินหายใจของเด็ก

มันมีชื่อเต็มๆว่า Respiratory Syncytial Virus เป็นไวรัสร้ายในเด็กเล็ก 0-5 ขวบ ที่ระบาดหนักช่วงปลายฝนต้นหนาว  

จนไปหาหมอ …..คุณหมอจับลูกตรวจน้ำมูกจึงได้ถึงบางอ้อ และนั่นคือที่มาของการรีวิวในครั้งนี้

 

^_^  7 Day Yimwhanfamily…… Journey with RSV <<<

 7 วันหรรษา ลั้นลากับ RSV ของบ้านยิ้มหวาน  555 ชื่อเรื่องฟรุ๊งฟริ๊งเหมือนจะไปเที่ยวจะได้ลดความเครียดไปได้บ้าง 

“สังเกตุอาการเบื้องต้นที่บ้าน ก่อนไปโรงพยาบาล”

  1. น้องเวียงพิงค์คนโตเพิ่งหายจากหลอดลมอักเสบ แต่ไอกลับมาอีก ไอหนักเลยทีนี้ ไอหนักมากไอจนอ้วกมีน้ำมูกไสๆไม่มีไข้เลย
  2. น้องภูพิงค์คนเล็กเพิ่งหายจากการเป็นส่าไข้ ผื่นเพิ่งยุบ แต่เริ่มมีน้ำมูกไสๆไหลเป็นทางและมีไอเล็กน้อย 

(อ่านความรู้เรื่องเด็กเป็นส่าไข้ได้ที่นี่ค่ะ คลิก เมื่อลูกเป็นไข้ออกผื่น-ส่าไข้ รับมือง่ายๆด้วยสติ

ไม่ได้การล่ะ อาการแบบนี้แม่พาเวียงพิงค์แจ้นไปโรงพยาบาลเลยฮะ ไอ มีน้ำมูก ไข้ต่ำๆ อาการเข้าข่ายเลยอาการแบบนี้ คุณหมอจับตรวจเลยเริ่มต้นล้วงน้ำมูกโดยใช้สำลีก้านยาวล้วงลงไปในจมูกแล้วนำเชื้อไปตรวจก็พบว่าเป็น RSV น้องเวียงพิงค์ต้องพ่นยาเลยค่ะเพราะหลอดลมอักเสบกะ RSV มาจอยกันสิคะ …..มามะ….มาจอยกัน…จอยกัน พี่ติ๊กก็มา 555 ฮาฮ้าาาา

อยากรู้การล้วงน้ำมูก เชิญชมวีดีโอค่ะ >> 

 

RSV มาทักทายแล้วล่ะค่ะ พูดแล้วก็มองบนอย่างเพลีย

ภาพในหัวมาเป็นสเต็ปอีกแล้ว มีประสบการณ์กับ RSV มาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะลูกคนโตเคยเป็นเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนอายุ 11 เดือน

จำได้ว่าไอมาราธอนมาก ภาพของลูกถูกดูดเสลดโผล่ขึ้นมาในหัว นั่นคือความทรงจำที่ไม่อยากนึกถึงเลย สงสารลูกมาก

 

สงครามของการต่อสู้กับอาการป่วยของลูกมาถึงแล้ว

ได้เวลาที่แม่จะได้งัดพลังพิเศษมาใช้แล้ว ยิ่งเป็นแม่มนุษย์ทำงานด้วย “สู้โว้ยยยอิแม่” กำดาบให้มั่น โพกหัวให้แน่น เตรียมตัวได้เลยอิแม่เอ้ยยยยยย เพลงมา ผ่ามพาม!!! ยัง ยังจะมีอารมณ์ขำอีก 555+++

แอดมิทเลยค่ะทุกคน พ่นยายาวแน่คืนนี้ หมอให้พ่นยาทุก 4 ชม. เพราะเวียงพิงค์ไอเยอะมาก ป้อนยาลดไข้ ใจก็ห่วงน้องภูที่อยู่บ้าน คิดว่าต้องรับเชื้อไปแล้วแน่ๆ แต่ยังไม่ชัวร์ มีแอบลุ้นขอให้ไม่ติดทีเห๊อะ แต่เฮียอึดไม่ค่อยมีอาการเลย เฮียมีไอเล็กน้อยและมีน้ำมูกแค่นั้น น้องภูเพิ่งเป็นส่าไข้แล้วก็หายเอง แม่ย่ามใจ แม่เลยจะรอดูอาการไปก่อน ซึ่งแม่คิดผิด!!!! อ่านต่อนะคะว่าทำไม

น้องเวียงพิงค์ยังไอต่อเนื่องและมีไข้ โดยเฉพาะการแอดมิทคืนที่ 2 ไข้ลูกสูงมาก

แม่เช็ดตัวให้และเรียกพยาบาลป้อนยา พยาบาลมาเช็คทุกชั่วโมงเลยค่ะ กลัวลูกชัก

ส่วนน้องภูพิงค์ยังอยู่ที่บ้านและแม่ก็โทรถามอาการกับย่าเป็นระยะ ย่าบอกภูก็กินได้เล่นปกติ ไอเล็กน้อย

คุณหมอดวงใจ ยังคงมาตรวจน้องเวียงพิงค์ทุกวันค่ะ มาเช้ามาบ่ายเลย คุณหมอดูแลพิงค์ดีมากๆ

วันต่อมาแม่เริ่มเป็นห่วงภู ให้พ่อเฝ้าพิงค์ แม่กลับมาดูภูที่บ้าน นอนกะภู

เอ…….ทำไมลูกหายใจละเหมือนมีเสียงครืดๆในปอดนะ เอามืออังปอดละแนบหูฟังเสียง

รีบพาลูกไปหาหมอ หมอบอกตามพี่ไปแล้วครับ RSV ลงไปที่ทางเดินหายใจลึกกว่าของเวียงพิงค์

“เฮ้ยยยย เฮียอาการน้อยกว่าพี่ไม่ได้หมายถึงว่าจะอันตรายน้อยกว่าเลยสินะ!!!.” งานงอกแล้ว เฮียภูของแม๊

 

แม่รู้สเต็ปโรคแล้ว อาการที่ต้องเตรียมรับมือ (ไม่มียารักษาเฉพาะนะคะ รักษาตามอาการ)

ช่วงเริ่มต้นของโรค >> ไข้ต่ำ  มีน้ำมูก  มีเสมหะ

ช่วงพีคของโรค >> ไข้สูง ไออย่างมากมาย (ยิ่งลงทางเดินหายใจลึกเท่าไหร่ยิ่งไอ)

ช่วงอยู่ตัว >> ไออย่างมากและอาการอาจกลับมาพีคอีกได้ ถ้าอาการดีขึ้นก็เบาใจและจะไอน้อยลงแล้วหายเป็นปกติ

 

 

การรักษาเมื่อรู้ว่า RSV เต็มรูปแบบแล้ว

การรักษาน้องภูพิงค์ อายุ 11 เดือน

  1. กรณีเด็กไม่มีไข้ ภูไม่มีไข้ อาการน้อยพ่นยาขยายหลอดลมค่ะ ต่อด้วยเคาะปอดและดูดเสลด ใครที่เคยพาเด็กเล็กไปดูดเสลดจะรู้ค่ะว่าน่าสงสารแค่ไหน แม่น้ำตาไหลไปกับลูกเลย
  2. เด็กภูมิคุ้มกันดีดีต่อใจจริงๆ พี่พยาบาลดูดเสลดน้องภูออกเยอะมาก RSV ลงทางเดินหายใจของน้องภูเยอะกว่าพี่พิงค์แต่น้องภูแข็งแรงและไม่มีไข้ไม่ต้องเจาะเต่า เน้นเคาะปอด กินยา พ่นยาและดูดเสลดค่ะ แม่คิดว่าคงเป็นเพราะภูเป็นผู้ชาย แข็งแรงและไม่เคยป่วยมาก่อน ร่างกายจึงรับมือได้ดีกว่าของพิงค์
  3. การเคาะปอดดูดเสลดเป็นสิ่งที่ต้องทำใจแต่ต้องทำ เคาะปอดคือนักเทคนิคการแพทย์จะห่อมือเป็นอุ้งแล้วตบเป็นจังหวะสม่ำเสมอที่หลังของเด็กต่อเนื่องกันประมาณ 10 นาที เสลดที่ไปเกาะในถุงลมเล็กๆในปอดเด็กจะกระเด็นหลุดออกมา เด็กเล็ก 0-1 ขวบเคาะแล้วต้องดูดเสลดจะทำให้ลดการที่เชื้อจะลงปอดลงได้
  4. ดูดเสลดคือขั้นตอนที่ต้องใจแข็งอย่างมากแต่ลูกจะดีขึ้นทันตา ดูดเสลดคือการให้เด็กนอนตะแคงแล้วใช้ผ้าห่อตัวเด็ก ใช้หลอดเล็กๆแหย่เข้าไปในปากให้เด็กอยากอ้วก แล้วเด็กจะขย้อนเสลดออกมา พยาบาลจะใช้สายยางดูดออกมาอย่างมากมาย
  5. เด็กที่แข็งแรงมากอาจเป็นไมม่มากและหายเองที่บ้านได้ แต่เด็กบางคนลงปอด เข้า ICU เลยนะ คุณหมอชมว่าน้องภูแข็งแรง แอดมิท 3 วันน้องภูก็หาย คุณหมอให้กลับบ้านได้
น้องภูพิงค์เพิ่งเคยพ่นยาครั้งแรก ตกใจร้องไห้เลย จริงๆแล้วจะเย็นๆที่จมูกค่ะ ไม่เจ็บนะคะ พี่คอยปลอบในฐานะผู้มีประสบการณ์มาก่อน และในฐานะเป็นเพื่อนร่วมป่วย น่ารักจังลูก

การรักษาน้องเวียงพิงค์ อายุ 3 ขวบ

  1. เด็กโตถ้าไอหนักเจอพ่นทุก 4 ชม. พ่นยา พ่นเอ็นโดฟิน พ่นน้ำเกลือ ตามอาการแล้วแต่คุณหมอสั่ง (ออกจากโรงบาลคงเป็นไอพ่นเลยไหมลูกข้า) 
  2. เด็กคนไหนกินข้าวได้น้อยเพราะไปมาก เจาะเต่าให้น้ำเกลือ ให้ยาลดไข้ ยาฆ่าเชื้อ
  3. เคาะปอดแต่ไม่ต้องดูดเสลด (ไม่ต้องดูดเสลดเพราะพิงค์โตแล้ว ร่างกายสามารถกำจัดเสลดได้ไม่เหมือนน้องภูที่ยังเล็กมากยังทำไม่ได้ นี่คือสาเหตุที่ภูต้องถูกดูดเสลดค่ะทุกคน)
  4. ช่วงพีคของโรคไข้จะสูงลอย อาจมีเชื้ออื่นร่วม เวียงพิงค์ไข้สูงในคืนที่ 2 หายจากอาการไข้ ได้น้ำเกลือ 4 ถุงใหญ่ แต่ยังมีอาการไอ ก็ต้องกินยาแก้ไอต่อ
  5. เวียงพิงค์เคยเป็น RSV แล้วและเป็นหลอดลมอักเสบร่วมด้วย แสดงว่าอาการไอจะเพิ่มจาก rsv ปกติเป็น 2 เด้ง แอดมิททั้งหมด 6 คืน ยังมีอาการไอ แต่คุณหมอก็ให้กลับบ้านได้

เด็ก 2 คนกลับบ้านมาและต้องกินยาต่อเนื่องไปทั้งยาแก้ไอ ยาแก้ไข้ ยาขยายหลอดลม ซึ่งถ้าไม่มีอาการแล้วสามารถหยุดยาเหล่านี้ได้

และมียาฆ่าเชื้อของน้องเวียงพิงค์ด้วยที่ต้องกินให้หมดขวด (ไม่งั้นจะดื้อยาเอาได้)

และแน่นอน ทั้ง 2 คนได้ยา ไดมีแทปแบบผงมาชงกินเพื่อป้องกันอาการภูมิแพ้ในอนาคตค่ะ

 

ติดมาจากไหนกันนะ…..อยู่แต่บ้านกับปู่ย่า โรงเรียนยังไม่ได้ไปนี่ลูกเอ๋ย

  1. RSV เป็นไวรัสค่ะ ติดได้เหมือนไวรัสทั่วไป
  2. ผู้ใหญ่ที่ติด RSV จะไม่มีอาการอะไรมาก เหมือนเป็นหวัดนิดๆ มาดมมาหอมเด็ก ได้เรื่องค่ะ เด็ก 0-5 ขวบได้เชื้อจะมีอาการป่วย โดยเฉพาะเด็กเล็กมาก
  3. เด็กที่เป็น rsv เอามือป้ายน้ำมูกและจับของเล่นโน่นนี่ เด็กคนอื่นมาสัมผัสน้ำมูกหรือสารคัดหลั่ง เอามือเข้าปาก บิงโก!!! ติดค่ะ
  4. เด็กที่เป็น rsv ไอจามใส่เพื่อน บิงโก!!! ติดค่ะ
  5. ปี 2558 เวียงพิงค์ติด RSV ครั้งแรกจากการไปฉีดวัคซีน เมื่อตอนอายุ 11 เดือน แล้วที่นั่นมีสนามเด็กเล่นเล็กๆให้เด็กป่วยกะเด็กปกติที่เดียวกัน พิงค์โก!!!ติดมาจากสนามเลยจ้า
  6. ปี 2560 เวียงพิงค์อายุ 3 ขวบ ติด RSV จากการไปเที่ยวงานวัดหรืออาจติดจากผู้ใหญ่นำเชื้อมา เพราะลูกอยู่แต่บ้านไม่ได้ไปโรงเรียน และแน่นอนเชื้อติดน้องภูพิงค์อายุ 10 เดือนด้วยค่ะ

 

ข้อคิดจากการป่วยครั้งนี้

  1. ถ้าลูกเป็น rsv ให้ดูอาการใกล้ชิด คุณหมอบอกว่ามีทั้งเป็นแล้วหายเองได้ และเป็นหนักลงปอด ปอดอักเสบอันตรายมากต้องเข้า ICU ก็มีค่ะ
  2. ให้ระวังให้ดีเพราะถ้าลูกเคยเป็น RSV ปอดลูกจะไวต่อเชื้อในครั้งต่อไปและมีโอกาสเป็นหอบหืดได้ง่าย ดูความแตกต่างเปรียบเทียบได้จากน้องภูเป็นครั้งแรกอาการไม่มาก แต่เวียงพิงค์เป็นครั้งที่ 2 ไอหนักมากค่ะ
  3. อย่าให้ไปโรงเรียนอย่าให้คลุกคลีกับเด็กคนอื่นถ้าลูกมีอาการเหมือนจะเป็น rsv เพราะเราจะเอาเชื้อไปติดลูกคนอื่นค่ะ ดูแลรับผิดชอบสังคมร่วมกัน
  4. อย่าพาลูกไปในที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะในหน้าฝนซึ่งเชื้อระบาดมาก ล้างมือบ่อยๆ
  5. การแอดมิทโรงพยาบาลให้ดูให้ละเอียด ถ้าเรามีลูก 2 คน แอดมิทพร้อมกัน เตียง A จ่ายค่าห้องเต็ม เตียง B จ่ายค่าห้องครึ่งเดียวค่ะ เซฟไปได้อยู่นะ
  6. ทำประกันชีวิตให้ลูก เราจะไม่กังวลค่าใช้จ่ายค่ะ แม้อาจต้องจ่ายส่วนเกินมันก็จะทำให้เราเบาใจได้ว่าไม่หนักแน่นอน เราจ่ายประกันก็เหมือนวางแผนสุขภาพให้ลูก
  7. ทุกคนในบ้านช่วยดูแล เราจะดีขึ้นเยอะ การมีปู่ย่าช่วยมาสลับพ่อแม่ให้ได้ไปทำงานได้พักผ่อน ลดความเครียดลงได้เยอะเลยค่ะ
  8. เตรียมตังค์สำรองไว้สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆหรือส่วนเกินประกัน ภูแอดมิท 3 คือ จ่ายค่ารักษา 18,xxx  ประกันครอบคลุมหมด ส่วนน้องเวียงพิงค์แอดมิท 6 คืนค่าใช้จ่าย 45,xxx ประกันแจ้งเป็นการรักษาต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว แม่จ่ายส่วนเกิน 17,xxx
  9. เวลาลูกแอดมิทของเล่นให้พร้อมหนังสือให้แน่น ของชอบลูกจัดไว้อย่าได้ขาด การอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมหลายวัน ของเล่นเลโก้ หนังสือ เกมส์ ระบายสี ขนมาเลยค่ะ ลูกจะได้มีอะไรทำ และคุ้นเคยกับของที่เคยเล่นเค้าก็จะสบายใจขึ้นแม้กายป่วย สงสารลูกค่ะ

 

เตรียมหนังสือ ของเล่นลูกไปด้วยค่ะ อยู่ในโรงพยาบาลยาวนานขนาดนั้น ลูกทั้งเบื่อทั้งคิดถึงบ้าน คืนที่ 6 เวียงพิงค์ขอใส่ชุดกลับบ้านนอนเลยค่ะ คือลูกไม่ไหวละ เช้าวันที่ 7 ต้องได้กลับ รู้เลยว่าลูกคิดถึงบ้าน

 

ขอให้เด็กๆทุกบ้านแข็งแรงนะคะ

ลูกป่วย …… แม่เปื่อยค่ะทุกคน

ทุกข์ที่สุดคือลูกป่วย…..อยากเจ็บปวดแทนลูก แต่ลูกป่วยนอยด์ได้แต่อย่าไปทุกข์ให้มาก เพราะชีวิตมันต้องเดินต่อไป ไหนจะงาน ไหนจะเงิน ชีวิตคนก็แบบนี้มีเจ็บป่วยเป็นธรรมดา คิดซะว่าดีแล้วที่เราได้ดูแลลูก ได้กอดได้หอมได้ส่งความรักความอุ่นอุ่นให้ในวันที่เขาทุกข์กาย ตั้งมือรับความเจ็บป่วยให้ดี…เป็นแม่ต้องรอบคอบ ในหัวต้องวางแผนและมีภาพเป็นสเต็ป ชีวิตมันจะง่ายขึ้นเยอะเนอะทุกคน…โชคดีอยู่บ้างที่ปู่ย่ามาสลับดูแลหลาน และโรงพยาบาลเชียงใหม่รามดูแลดีมาก คุณหมอดวงใจ เป็นคุณหมอที่บ้านนี้วางใจและอุ่นใจเสมอค่ะ

ตรองเท่านั้นนะแม่…..

ถ้าอ่านแล้วมีประโยชน์ อย่าลืมกดติดตามแม่จิ๊บและบ้านยิ้มหวานเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ กว่าจะเขียนออกมาได้แต่ละครั้งใช้พลังงานมากมาย ติดตามได้หลายช่องทางเลยจ้า ขอบคุณทุกๆคนมากน๊า

อยากให้ทุกบ้านยิ้มหวานให้กันนะจ๊ะ

23/09/2018 edit เพิ่มเติม มี Live เรื่องนี้ค่ะ อีก 1 ปี ถัดมาปรากฎ ลูกก็เป็น rsv อีก เป็นแล้วเป็นอีกได้นะคะโรคนี้

 

Youtube : ํYimwhan Family

facebook : เพจเลี้ยงลูกปลูกผักรักหนังสือ by Yimwhanfamily


**follow us**

เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ
Instragram : yimwhanfamily
เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com
Youtube : Yimwhan Family
อีเมลล์ : [email protected]
Line Id : @yimwhanfamily

 

Author: Yimwhanfamily

Yimwhan Family แบ่งปันเรื่องราวแม่มือใหม่เลี้ยงลูกเชิงบวก ที่จัดการศึกษาทางเลือกในแบบ Life Long Learning สร้างเด็กรักการอ่าน (Read to Grow) และท่องเที่ยวสไตล์เด็กและครอบครัว โดย Real Mom "แม่จิ๊บ" Working Mom ที่มีความฝัน และ Passion คือ "เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ"  

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these <abbr title="HyperText Markup Language">html</abbr> tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>

*