ค้นหา
Homeschool - Books - Bilingual - Phonics

ตอนที่แล้วเราคุยกันเรื่องโรงเรียนของลูก มีกี่แบบ มีการสอนแบบไหนบ้าง อ่านได้ที่นี่ค่ะ >>> โรงเรียนของลูก โรงเรียนของเรา โรงเรียนมีชีวิต

ตอนนี้เราจะคุยกันเรื่อง “ความลับพหุปัญญาอัจฉริยะ 9 ด้านที่ซ่อนอยู่ในตัวลูกของเรา”

ตอนเด็ก เรามักถูกบอกว่า “ให้เรียนเก่งๆ” การได้เกรดสูงๆ หรือเรียนได้อันดับต้นๆของห้องก็จะเป็นความภาคภูมิใจ การแข่งขันทางวิชาการมีให้เห็นตามสนามสอบมากมาย เราถูกฝังหัวมาว่าคนที่เก่งวิทย์คณิตนั่นคือสุดยอดของหัวกะทิ อนาคตต้องมีอาชีพดีๆรออยู่แน่นอน ส่วนใครที่เรียนได้อันดับท้ายๆ เกรดน้อยๆ ก็จะถูกตราหน้าว่าหัวขี้เลื่อย เรียนต่อก็เปลืองตังค์ ออกมาช่วยพ่อแม่ทำมาหากินดีกว่า เอ…เราเรียนในโรงเรียนก็มีวิชาตั้งหลากหลายนะคะ สังคม ภาษา คำนวณ ศิลปะ พละ แต่ทำไมวิชาคำนวณถึงได้รับคำชื่นชม เราอยู่กับค่านิยมแบบนี้ตั้งแต่เล็กจนโต ถึงแม้ชีวิตแม่จิ๊บจะไม่เคยถูกบังคับเลย แต่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เรียนสายวิทย์ คณิต โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันมีทางเลือกอีกมากมาย ความสามารถของคนไม่ได้จำกัดอยู่แค่การคำนวณหรือภาษาเท่านั้น วันนี้เรามารู้จักกับทฤษฎีที่ว่าด้วยความสามารถอันโดดเด่นของแต่ละคน ที่มีแตกต่างกันถึง 9 อย่างกันค่ะ

ทฤษฏีนี้เป็นของ ศาสตราจารย์โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เป็นผู้เสนอ “ทฤษฎีพหุปัญญา” (The Theory of Multiple Intelligences) มองๆไปท่านคล้ายๆดัมเบิลดอร์แห่งฮอร์กวอร์ตของพี่แฮร์รี่ พอร์ตเตอร์อยู่นะคะเนี่ย หน้าตารอยยิ้มดูใจดีน่ารักมากค่ะ

 

ประวัติของศาสตราจารย์เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆค่ะ เป็นศาสตราจารย์ทางการศึกษาและจิตวิทยา เป็นคนที่เน้นการพัฒนาความสามารถความถนัดและสติปัญญาตามแต่ละบุคคล เชื่อว่าปัญญาไม่สามารถวัดออกมาได้ แต่จะเห็นได้จากการกระทำและความสามารถในการแก้ไขปัญหาในแต่ละวัฒนธรรม เป็นคนเดียวในบ้านที่ได้เรียนในระดับมหาวิทยาลัย และเมื่อศาสตราจารย์นำเสนอทฤษฎีพหุปัญญาออกมาก็ถูกใช้ในการปรับปรุงระบบการศึกษาของอเมริกาค่ะ มีหนังสือของศาสตราจารย์ที่น่าอ่านมากๆ แม่จิ๊บกำลังอ่านอยู่นะคะ ถ้ามีอะไรดีๆจะเอามาแบ่งให้อ่านเป็นระยะๆ (ยืมรูปจากเน็ตมานะคะ)

ศาสตราจารย์ได้ให้ทฤษฎีพหุปัญญาว่าด้วยความฉลาดของมนุษย์ แบ่งได้ 9 ด้านด้วยกันค่ะ 

1. ปัญญาด้านภาษา (Linguistic Intelligence)

คือ ความสามารถในการใช้ภาษารูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ภาษาพื้นเมือง จนถึงภาษาอื่นๆ ด้วย สามารถรับรู้ เข้าใจภาษา และสามารถสื่อภาษาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ตามที่ต้องการ ผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น ก็มักเป็น กวี นักเขียน นักพูด นักหนังสือพิมพ์ ครู ทนายความ หรือนักการเมือง

2. ปัญญาด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)

คือ ความสามารถในการคิดแบบมีเหตุและผล การคิดเชิงนามธรรม การคิดคาดการณ์ และการคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์ ผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น ก็มักเป็น นักบัญชี นักสถิติ นักคณิตศาสตร์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนโปรแกรม หรือวิศวกร

3. ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ (Visual-Spatial Intelligence)

คือ ความสามารถในการรับรู้ทางสายตาได้ดี สามารถมองเห็นพื้นที่ รูปทรง ระยะทาง และตำแหน่ง อย่างสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน แล้วถ่ายทอดแสดงออกอย่างกลมกลืน มีความไวต่อการรับรู้ในเรื่องทิศทาง สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น จะมีทั้งสายวิทย์ และสายศิลป์ สายวิทย์ ก็มักเป็น นักประดิษฐ์ วิศวกร ส่วนสายศิลป์ ก็มักเป็นศิลปินในแขนงต่างๆ เช่น จิตรกร วาดรูป ระบายสี เขียนการ์ตูน นักปั้น นักออกแบบ ช่างภาพ หรือสถาปนิก เป็นต้น

4. ปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily Kinesthetic Intelligence)

คือ ความสามารถในการควบคุมและแสดงออกซึ่งความคิด ความรู้สึก โดยใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงความสามารถในการใช้มือประดิษฐ์ ความคล่องแคล่ว ความแข็งแรง ความรวดเร็ว ความยืดหยุ่น ความประณีต และความไวทางประสาทสัมผัส สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นนักกีฬา หรือไม่ก็ศิลปินในแขนง นักแสดง นักฟ้อน นักเต้น นักบัลเล่ย์ หรือนักแสดงกายกรรม

5. ปัญญาด้านดนตรี (Musical Intelligence)

คือ ความสามารถในการซึมซับ และเข้าถึงสุนทรียะทางดนตรี ทั้งการได้ยิน การรับรู้ การจดจำ และการแต่งเพลง สามารถจดจำจังหวะ ทำนอง และโครงสร้างทางดนตรีได้ดี และถ่ายทอดออกมาโดยการฮัมเพลง เคาะจังหวะ เล่นดนตรี และร้องเพลง สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นนักดนตรี นักประพันธ์เพลง หรือนักร้อง

6. ปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)

คือ ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น ทั้งด้านความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ และเจตนาที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน มีความไวในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม สร้างมิตรภาพได้ง่าย เจรจาต่อรอง ลดความขัดแย้ง สามารถจูงใจผู้อื่นได้ดี เป็นปัญญาด้านที่จำเป็นต้องมีอยู่ในทุกคน แต่สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นครูบาอาจารย์ ผู้ให้คำปรึกษา นักการฑูต เซลแมน พนักงานขายตรง พนักงานต้อนรับ ประชาสัมพันธ์ นักการเมือง หรือนักธุรกิจ

7. ปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง (Intelligence)

คือ ความสามารถในการรู้จัก ตระหนักรู้ในตนเอง สามารถเท่าทันตนเอง ควบคุมการแสดงออกอย่างเหมาะสมตามกาลเทศะ และสถานการณ์ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเผชิญหน้า เมื่อไหร่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อไหร่ต้องขอความช่วยเหลือ มองภาพตนเองตามความเป็นจริง รู้ถึงจุดอ่อน หรือข้อบกพร่องของตนเอง ในขณะเดียวกันก็รู้ว่าตนมีจุดแข็ง หรือความสามารถในเรื่องใด

มีความรู้เท่าทันอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ความคาดหวัง ความปรารถนา และตัวตนของตนเองอย่างแท้จริง เป็นปัญญาด้านที่จำเป็นต้องมีอยู่ในทุกคนเช่นกัน เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า และมีความสุข สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นนักคิด นักปรัชญา หรือนักวิจัย

8. ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence)

คือ ความสามารถในการรู้จัก และเข้าใจธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เข้าใจกฎเกณฑ์ ปรากฏการณ์ และการรังสรรค์ต่างๆ ของธรรมชาติ มีความไวในการสังเกต เพื่อคาดการณ์ความเป็นไปของธรรมชาติ มีความสามารถในการจัดจำแนก แยกแยะประเภทของสิ่งมีชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นนักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย หรือนักสำรวจธรรมชาติ

9. ความฉลาดในการคิดใคร่ครวญ (Existential intelligence) 
ชอบคิด สงสัยใคร่รู้ ตั้งคำถามกับตัวเองในเรื่องความเป็นไปของชีวิต ชีวิตหลังความตาย เรื่องเหนือจริง มิติลึกลับ เช่น นักคิด อามิ อริสโตเติล ขงจื้อ ไอน์สไตน์ พลาโต โสเครติส ฯลฯ 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก รศ.ดร.เยาวพา  เดชะคุปต์ ซึ่งท่านอาจารย์เรียบเรียงมาจาก  https://howardgardner.com

ดูวีดีโอของ ศ.การ์ดเนอร์ที่นี่ค่ะ https://howardgardner.com/videos/

ศาสตราจารย์ทำงานกับเด็ก รักก็ตรงนี้….. 

 

โดยเฉพาะวีดีโออันนี้ ศาสตราจารย์เล่าเรื่องทฤษฎีพหุปัญญาให้ฟังค่ะ

โอ้โห!! คนเราเป็นอัจฉริยะได้ตั้งหลายอย่างเลย

ถ้าเด็กๆรู้ความสามารถและความถนัดของตัวเองตั้งแต่เล็กๆ และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากครอบครัว เราจะได้อัจฉริยะในโลกนี้อีกมากมายเลยค่ะ

เยี่ยมไปเลยเนอะว่าไหม

ส่วนอันสุดท้ายนี่ของแถมนะคะ ข้ามมาฝั่งเอเชียเราบ้าง ทำไมเด็กญี่ปุ่นถึงครีเอทีฟ เขามีวิธีการอย่างไร


**follow us**

เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ
Instragram : yimwhanfamily
เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com
Youtube : Yimwhan Family
อีเมลล์ : [email protected]
Line Id : @yimwhanfamily

 

 

Author: Yimwhanfamily

Yimwhan Family แบ่งปันเรื่องราวแม่มือใหม่เลี้ยงลูกเชิงบวก ที่จัดการศึกษาทางเลือกในแบบ Life Long Learning สร้างเด็กรักการอ่าน (Read to Grow) และท่องเที่ยวสไตล์เด็กและครอบครัว โดย Real Mom "แม่จิ๊บ" Working Mom ที่มีความฝัน และ Passion คือ "เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ"  

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these <abbr title="HyperText Markup Language">html</abbr> tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>

*