โรงเรียนทางเลือก…โรงเรียนต้นกล้า
**บทความนี้เขียนจากทัศนคติของแม่จิ๊บเท่านั้นค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านน๊า**
(แม่จิ๊บแนะนำให้เปิดอ่านจากเว็บ www.yimwhanfamily.com โดยตรงโดยไม่ผ่านลิงค์ค่ะ เพราะข้อมูลเยอะ จะไม่มีโฆษณามาคั่นให้ลายตาค่ะ)
อยากให้ลูกเรียนแบบมีความสุข ไม่ซีเรียสกะผลการเรียนเกินไป เน้นเล่นให้สนุก เรียนรู้จากการเล่น
หลายบ้านจึงเลือกการศึกษาในแนว “โรงเรียนทางเลือก” วันนี้แม่จิ๊บจะพาไปรู้จักกับ “โรงเรียนต้นกล้า” โรงเรียนทางเลือกแบบเอกชน……จากประสบการณ์ที่ลูกเข้าไปเรียนที่นี่ในระดับเตรียมอนุบาลค่ะ (ปัจจุบันแม่จิ๊บอยู่ระหว่างจดทะเบียนบ้านเรียนทำ Home School ให้ลูกค่ะ )
ข้อมูลทั่วไป
โรงเรียนสอนตั้งแต่เตรียมอนุบาล – ประถมศึกษาปีที่ 6
โรงเรียนตั้งอยู่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เลยแยกลิขิตชีวันมาประมาณ 300 เมตร
เป็นโรงเรียนทางเลือก เรียนรู้จากการเล่น เน้นส่งเสริมจินตนาการเด็กค่ะ
1. วิสัยทัศน์และนโยบายของโรงเรียน Ministry of Happiness โรงเรียนต้นกล้าเป็นโรงเรียนทางเลือกที่เน้นการเรียนรู้อย่างมีความสุข บ่มเพาะความพร้อมให้แก่ผู้เรียน เพื่อให้ ผู้เรียนเติบโตอย่างสมดุล ทั้งร่างกาย จิตใจ ความคิด จินตนาการ และเป็นผู้นำทางความคิดด้านการศึกษา ก่อนที่แม่จิ๊บจะนำลูกไปเรียนที่นี่ ทราบมาว่าผู้ปกครองทุกคนจะได้พูดคุยกับผู้อำนวยการค่ะ เพราะจะได้รู้แนวทางโรงเรียน โรงเรียนเน้นให้เด็กเรียนรู้จากการเล่น แปลงหลักสูตรการเรียนรู้มาเป็นการเล่น ดังนั้น เค้าไม่เน้นให้เด็กเล็กรีบอ่านออกเขียนได้นะคะ ก่อนที่ลูกจะได้เข้าเรียน ผู้บริหารที่นี่จะคุยกับพ่อแม่ทุกครอบครัวค่ะ เพื่อเชคว่าแนวทางของโรงเรียนกับทัศนคติและความคาดหวังของพ่อแม่ตรงกันหรือไม่
ถ้าหวังจะเรียนแข่งขัน อ่านออกเขียนได้ไวๆที่นี่ไม่ตอบโจทย์ค่ะ ถ้าหวังให้ลูกเรียนรู้จากความสุข มาถูกทางแล้วค่ะ เด็กอนุบาลที่นี่วิ่งเล่นทุกเช้า ผู้บริหารเคยคุยกับแม่จิ๊บบอกว่าถ้าเราทำให้รากเค้าแข็งแรง เค้าก็จะเติบโตพร้อมแตกกิ่งก้านสาขาของจินตนาการออกไปไม่สิ้นสุด ตอนที่พาลูกเข้าอนุบาล ผู้บริหารจะเชิญผู้ปกครองทั้งชั้นไปฟังบนโยบายหรือวิธีการสอนอีกรอบ เค้าเล่านิทานให้ฟังเรื่องศักยภาพที่ต่างกันของเด็กด้วยค่ะ ชอบมากๆ (ไว้เล่าตอนต่อไปนะคะ ไม่งั้นยาว )
2. สิ่งแวดล้อมต้องส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและมีความเป็นธรรมชาติ
มะขามต้นนี้เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนต้นกล้าไปแล้วค่ะ มันโดดเด่นร่มรื่นสวยงามมากทีเดียว ต้นกล้าเป็นโรงเรียนที่กว้างขวาง สนามหญ้าเขียวขจีี แยกของเล่นตามระดับชั้นเด็กอย่างชัดเจน มีตึก PK สำหรับระดับเตรียมอนุบาลโดยเฉพาะ และตึก K สำหรับเด็กอนุบาล ส่วนถัดไปลิบๆ เป็นตึกของเด็กประถมค่ะ
ทุกเช้าเด็กๆในระดับชั้นเตรียมอนุบาลและระดับอนุบาลจะถอดรองเท้า เดินเกาะไหลต่อแถวกันมาที่สนามหญ้าค่ะ แม่จิ๊บชอบมากๆ เด็กๆก็สนุกกันมากค่ะ (มีเพลงระหว่างต่อแถวด้วยค่ะน่ารักดี ครูจะมีดนตรีให้สัญญาณ)
อันนี้ไม่ใช่สระว่ายน้ำนะคะ เป็นสระน้ำพุประดับเฉยๆเพื่อความร่มรื่น สระว่ายน้ำของเด็กอยู่อีกฟากหนึ่งค่ะ (เค้าบอกว่าเป็นสระที่จำลองเหมือนชายหาด)
ตรงนี้เป็นออฟฟิศค่ะ เวลาเราไปติดต่อนั่นโน่นนี่ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ จ่ายค่าเทอม ก็ไปตรงนี้ เมื่อก่อนยังไม่เป็นห้องกระจกค่ะ ตอนหลังทำซะสวยเชียว
ด้านนอกห้องกระจกเป็นที่นั่งสบายๆ มีชั้นไม้ยกสูงขึ้นนิดหนึ่ง พอให้เด็กๆใช้ทำเป็นลานกิจกรรม พอเลิกเรียนแม่จิ๊บจะมารับลูกแล้วซื้อไอติมมานั่งกินตรงนี้กันค่ะ
ยูนิฟอร์มโรงเรียนระดับอนุบาลค่ะ เจ้ของแม่ยอมใส่ได้ถ่ายรูปไว้แค่นี้ เด็กๆใส่ชุดยูนิฟอร์มวันจันทร์ วันพุธใส่ชุดกีฬา นอกนั้นก็ชุดตามสบายค่ะ (ตาง่วงมากลูก)
3.ที่จอดรถรับส่งลูกหลานค่ะ ไม่กว้างมากนัก ถ้ามาส่งลูกแล้วขับออกไปก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเวลามีกิจกรรมเช่น กีฬา วันคริสมาสต์ก็จะต้องจอดต่อกันออกไปไกลเหมือนกันค่ะ แต่รู้ไหมคะ รปภ.ที่นี่ สุภาพน่ารักมากๆ และส่วนมากจะจำเด็กได้เกือบทุกคน เวลามาโรงเรียนพี่ รปภ.ทักลูกเราก่อนเลยค่ะ แม่จิ๊บคิดว่าเรื่องนี้สำคัญมากๆค่ะ เป็นเรื่องความปลอดภัยของเด็ก
4. อาหารการกิน
แต่ละสัปดาห์จะมีเมนูอาหารมาติดที่ใต้ตึกเลยค่ะว่าลูกเราจะได้กินอะไรบ้าง มีกินอาหารเจลดการเบียดเบียนสัตว์วันพฤหัสบดีค่ะ
5.ค่าเทอม ตามตารางนี้ค่ะ มีค่าแรกเข้าครั้งเดียว 10000 บาทค่ะ (โรงเรียนนี้ไม่มมีค่าใช้จ่ายยิบย่อย เวลามีกิจกรรมก็เน้นให้เอาวัสดุเหลือใช้มาให้เด็กร่วมประดิฐ ไม่เน้นให้ซื้อ ไม่รับของจากผู้ปกครองด้วยค่ะ แม่จิ๊บเคยเอาหนมฝากครู ปรากฎมารู้ทีหลัง โรงเรียนมีนโยบายไม่ให้รับของจากผู้ปกครองไรงี้ด้วย)
**** ข้อมูลค่าเทอมปี 2561
6.ตารางเรียน ในแต่ละระดับชั้น แต่ละห้องเรียนอะไรบ้าง มีตารางบอกชัดเจนค่ะ ใครอยากส่องว่าลูกได้เรียนอะไรไปบ้างก็ไปดูได้ค่ะ
7. การสื่อสาร เวลามีข่าวอะไรที่จะสื่อสารกับผู้ปกครอง เวลาไปส่งลูกก็ดูที่ป้ายได้ค่ะ โรงเรียนมีมาตรฐานเรื่องโรคระบาด จะแนบเอกสารมากับสมุดลูกเสมอๆ แต่ไม่ได้ไปโรงเรียน ครูประจำชั้นก็จะโทรมาแจ้งตลอดค่ะว่ามีโรคอะไรที่ต้องระวังบ้าง โรงเรียนมีเด็กป่วยด้วยโรคอะไรที่ต้องระวัง
8.มีกล้องวงจรปิดใต้ตึกและให้ดูจอเดียวไม่มีดูออนไลน์ค่ะ ไม่มีกล้องวงจรปิดออนไลน์ให้ดูนะคะ ดูได้เฉพาะใต้ตึกสำนักงานค่ะ มีทีวีเครื่องเดียวเท่านี้ค่ะ อันนี้จะว่าเป็นข้อดีก็ได้ ข้อเสียก็ใช่ค่ะ ข้อดีคือเราจะได้ไม่ต้องมานั่งดูลูกหรือกังวลตลอดเวลา แต่ข้อเสียคือเราก็อยากดูลูกว่าวันๆทำอะไรแบบไหนมั่งง่ะ คือเราอยากดูทุกอิริยาบถของลูก กินยังไง อยู่ยังไง เล่นกับใคร โถๆลูกออกจากอกพ่อแม่มันก็ห่วงเป็นธรรมดาค่ะ แต่เห็นความเยอะไหมคะ ความเยอะที่แม่มีมันก็เริ่มมา คงแบบนี้ล่ะมั้งโรงเรียนเลยไม่มีแบบให้ดูออนไลน์ (แต่จริงๆอยากรู้ว่าลูกทำไร อยู่ยังไง ก็ถามครูนะคะ ครูบอกหมด ไม่ต้องดูก็ได้ 55)
9.ปลื้มผลงานลูกให้เต็มที่ เวลาไปส่งลูกจะมีผลงานนักเรียนมาติดให้เห็นอยู่ประปราย มีของลูกเราด้วย วาดอะไรก็น่ารักไปหมดล่ะลูกเรา
10.ร้านค้าในโรงเรียนมีร้านเดียวและความปลอดภัยดีเลยทีเดียว ขายขนม อาหาร โรงเรียนนี้ตั้งแต่ รปภ.ยันแม่ค้า เค้าถูกบรีฟมาตีมเดียวกันค่ะ คือต้องสอนเด็กๆด้วย เช่น ซื้อติมไปกินก็ต้องขอบคุณคุณแม่คุณพ่อ คนขายเค้าจะพูดให้เด็กขอบคุณตลอดค่ะ ส่วนเรื่องความปลอดภัย เค้ามีระบบหลายชั้นเหมือนกันทั้งเรื่องทำบัตรสแกนและการโทรสอบถามพ่อแม่
“เรียนรู้ผ่านการเล่น เน้นวัฒนธรรมการอ่าน
ถักสานจินตนาการ สร้างฐานคิดวิทยาศาสตร์ใหม่”
ความรู้สึกเมื่อแม่จิ๊บพาลูกไปโรงเรียนต้นกล้ามาค่ะ (มีคำเตือนข้างล่างสุดนะ)
(ปัจจุบันแม่จิ๊บทำโฮมสคูลที่บ้านนะคะเพราะเราชอบแนวนี้ *โฮมสคูลคือการจัดการศึกษา ตาม พรบ.การศึกษามาตรา 12 ค่ะ พ่อแม่สอนลูกที่บ้าน ยื่นแผนกับเขตการศึกษา/ได้รับเงินอุดหนุน ใครสนใจเรื่องโฮมสคูล แม่จิ๊บรีวิวไว้หลายตอนที่นี่ค่ะ http://yimwhanfamily.com/category/home-school/)
- ชอบสิ่งแวดล้อมโรงเรียนมากค่ะ สิ่งที่เห็นคือสนามโรงเรียนที่มีสนามหญ้าเขียวขจี มีอุโมงค์เล็กๆให้เด็กเดินเล่นออกกำลังกาย ดูไปดูมาเหมือนเหล่าฮอบบิทรอแกรนด์ดัฟยังไงยังงั้น มีต้นมะขามเล็กๆที่ตัดกิ่งก้านเป็นรูปทรงพุ่มดูน่าไปนั่ง และคุณครูก็พาเด็กๆไปนั่งจริงๆในกิจกรรม PSI เด็กๆเกาะไหล่กันเดินวิ่งเล่นในสนามน่ารักมากๆค่ะ ที่นี่มีความเขียว เขียว และเขียว โรงเรียนเขียวมากค่ะ มีสนามเด็กเล่นกว้างขวาง
- ตารางเรียนเด็กเตรียมอนุบาลหรือเด็กอนุบาล เหมาะสมกับวัยไม่เน้นวิชาการ (อันนี้ตรงกับความต้องการของเรา) เพลงเพราะมากๆทุกเพลง สอนให้เด็กๆทำพฤติกรรมดีๆ โรงเรียนใช้วิถีสติสอนเด็กนะคะ แต่ละห้องมีรฆังเล็กๆตี เป๊ง หลับตา เป๊ง ลืมตา ไรงี้ (ลูกจำมาทำที่บ้าน) ลูกได้พฤติกรรมดีๆกลับมาเช่น การแบ่งปัน ขอบคุณ อะไรแบบนี้ค่ะ (คิดถึงวิถีของหมู่บ้านพลัมเลยค่ะ เค้าใช้วิธีนี้เจริญสติ ยืมภาพจากเน็ตนะคะ)
- ชอบ รปภ.และครูประจำชั้นของลูก คือ พี่ รปภ.แกจำพ่อแม่และเด็กได้ทุกคนค่ะ แกทักได้หมดพ่อแม่คนนี้มารับน้องคนนี้ น้องคนนี้ชื่ออะไร บางทีเด็กมาโรงเรียนร้องไห้เสียใจอะไรมาไม่รู้ แกก็ปลอบใจ เออ…ดีเนอะ แบบนี้แสดงว่าผู้บริหารจะต้องมีนโยบายเรื่องความปลอดภัยหลายชั้นพอสมควร
- ชอบวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร กิจกรรมก่อนวันเปิดเทอมของลูก ผู้บริหารจะมาเล่าเรื่องโรงเรียนให้ฟังในแต่ละดับชั้นค่ะ พ่อแม่นั่งฟัง นั่งพูดคุย ถามได้ทุกอย่าง เราจะรู้ว่าลูกเราทำอะไรบ้างที่โรงเรียน ครูสอนอะไรแบบไหน เด็กวัยอย่างลูกของเราเนี่ย ควรมีทักษะอะไร อย่างเตรียมอนุบาลขอแค่ช่วยเหลือตัวเองได้ ใส่เสื้อผ้า กินข้าว บอกเข้าห้องน้ำ อะไรแบบนี้ค่ะ ที่สำคัญวิสัยทัศน์เข้ากับทฤษฏีพหุปัญญา (Multiple intelligence) ของ Howard Gardner ดึงความสามารถเด็กแต่ละคนออกมา แม่ชอบบบบ (อ่านเรื่องทฤษฎีพหุปัญญาได้ที่นี่ค่ะ>> ทฤษฎีพหุปัญญา โดย ศ.โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ แห่งฮาร์วาร์ด)
- ค่าเทอมรับได้ ไม่ถูกแต่ก็ไม่โหดร้าย
- ใกล้บ้าน ขับรถ 15-20 นาที ส่งลูกแล้วเรารวดไปทำงานได้เลย แจ่มมมม
- การสื่อสารของครูกับพ่อแม่มีความชัดเจน ปกติจะมีสมุดที่เราสื่อสารกับคุณครูทุกวันค่ะ ครูจะเชคมาเลยลูกเราเป็นไงมั่ง กิน นอน เล่น พฤติกรรมลูกที่บ้านเป็นยังไง พ่อแม่กับครูจะช่วยปรับพฤติกรรมเด็กได้อย่างไร มีกิจกรรมรดน้ำพรวนดิน เหมือนเด็กๆคือต้นไม้ ต้องรดน้ำพรวนดินกัน กิจกรรมนี้ครูประจำชั้นลูกจะพุดคุยกับพ่อแม่ตัวต่อตัว เล่าเรื่องเด็กให้ฟังว่าเป็นแบบไหน พ่อแม่สงสัยอะไรถามได้หมด พฤติกรรมอะไรที่ผู้ปกครองกับคุณครูต้องทำไปในแนวเดียวกันเพื่อให้เด็กไม่สับสน ชอบบบบบ
- อาหารกลางวัน โรงเรียนนี้มีตารางอาหารให้เราดูเลยว่าลูกกินอะไร
- การพูดคุยกันของผู้ปกครอง ที่นี่มีสมาคมผู้ปกครองด้วยค่ะ เแต่แม่จิ๊บมองในมุมไกลๆค่ะ ยังไม่เคยประชุม อยู่แต่ในกลุ่มไลน์ผู้ปกครองของชั้นลูกส่วนมากจะคุยกันเวลาจัดกิจกรรมให้ลูก หรืออัพเดทโน่นนี่ เช่น วันคริสมาสต์ใครจะเป็นซานต้า ใครจะทำอาหารอะไรไปให้เด็กๆกินเมื่อจัดกิจกรรม บ้านแม่จิ๊บเคยเอาผลไม้ไปและทำขนมจีนน้ำเงี้ยวไปค่ะ แม่จิ๊บคิดว่ามันเป็นบรรยากาศที่ดีมาก เป็นกลุ่มที่น่ารักมากๆ รักนะคะ PK2
- ความสะอาด มาตรการดูแลเมื่อเกิดโรคระบาด จำนวนเด็กในห้อง 15-18 คนโดยประมาณ ในห้องมีครู 1 คนและครูผู้ช่วยอีก 1 คน ตอนลูกไปโรงเรียนใหม่ๆร้องไห้ ครูก็ดูแลพิเศษให้ ทุกเย็นลูกจะถูกมัดผมมาด้วยหลากหลายสไตล์ 55 แม่ปลื้มมากแม่ทำไม่เป็น
- กิจกรรมอื่นๆของโรงเรียน โรงเรียนสนับสนุนการอ่าน โรงเรียนมีกิจกรรมให้เด็กๆทำสนุก การจัดอีเว้นท์ไม่เน้นให้ซื้อ มีการบ่มเพาะนิสัยดีๆให้เด็กและเพลงก็เพราะมากๆ อันนี้ไปแอบถ่ายรูปมา ตอนสัปดาห์การอ่าน ซึ่งครูให้นักเรียนเขียนเรื่องการอ่านค่ะ 55 พ่อแม่มีสะอึก ปิดท้ายด้วยรูปนี้นะคะ
ลืมไป เค้ามีกิจกรรมพิเศษช่วงซัมเมอร์บ่อยๆด้วยนะคะ มีทั้งแบบของนักเรียนต้นกล้าโดยเฉพาะและของน้องๆที่ไม่ใช่เด็กต้นกล้าแต่สนใจไปจอยก็มีค่ะ พ่อแม่บ้านไหนสนใจก็ลงทะเบียนกันไปค่ะ เน้นกิจกรรมสนุกๆ
คำเตือน : ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่ฝากความฝันไว้กะลูกอยากให้ลูกเก่งๆ เรียนหนักๆ แบกเป้ใหญ่ๆ แข่งกะคนอื่นตลอดเวลา อ่านออกเขียนได้ไวๆ ไม่เหมาะกับโรงเรียนนี้ค่ะ และถ้าคุณให้ลูกมาเรียนแล้วถ้าอยากออกไปต่อที่อื่น อาจต้องคุยกับโรงเรียนที่จะไปนะคะว่าเค้าวัดเด็กแบบที่แม่จิ๊บพูดมาตะกี้ไหม เพราะมันก็จะขัดกะแนวต้นกล้าพอสมควรค่ะ เพราะต้นกล้าเค้าไม่รีบให้เด็กอ่านออกเขียนได้ แต่เน้นให้เด็กพัฒนาไปกับความสุข ไม่ต้องไปแผ่วปลาย เค้าเน้นส่งเสริมให้เด็กจินตนาการค่ะ
แม่จิ๊บทำโฮมสคูลให้ลูก อยู่ในช่วงมีลกเล็กสองคนแล้วพอไม่สบายก็แพ็คคู่ จึงหันมาโฮมสคูลค่ะ ไว้ถ้าลูกอยากไปโรงเรียน…ต้นกล้าก็คือโรงเรียนที่เราเลือกไว้อันดับ 1 ค่ะ ที่ไหนที่ลูกแฮปปี้ก็คือที่ดีสำหรับเรา…..
**follow us** เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ Instragram : yimwhanfamily เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com Youtube : Yimwhan Family อีเมลล์ : [email protected] Line Id : @yimwhanfamily