ค้นหา
Homeschool - Books - Bilingual - Phonics

วันนี้มาเล่าเรื่องบัตรของนักเรียนโฮมสคูลระดับอนุบาลให้ฟังนะคะ 

หลังจากตอนที่แล้ว “บ้านเรียนวนิษา-ภูมิภัทร” ได้รับอนุญาตให้จัดการเรียนการสอนโดยบ้านเรียนได้แล้วนั้น อ่าน step ย้อนหลังที่นี่นะคะ ขั้นตอนการทำโฮมสคูลอนุบาลเป็นสเต็ป อย่าลืมอ่านตั้งแต่ 1-6 นะ


เจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งเราว่า ให้เราเตรียมรูป 1 นิ้ว 2 ใบ ไปให้เจ้าหน้าที่ (เจ้าหน้าที่ทำบัตรนักเรียนให้น้องเวียงพิงค์แล้ว ให้เตรียมรูปมาติดและมารับได้เลย) เราจึงพาลูกไปถ่ายรูปติดบัตรค่ะ

เราใส่ชุดเสื้อขาวนักเรียนให้ลูก เพื่อไปถ่ายรูปจะได้เรียบร้อยหน่อย บัตรนี่อยู่กับลูกไป 3 ปี เลยนะคะ (อนุบาล 1-3) จะพาลูกไปถ่ายรูป ลูกก็กลัว เค้าไม่เคยไปร้านถ่ายรูป ก่อนไปแม่ก็เล่าว่าถ่ายรูปจะต้องทำอะไรบ้าง ถามแม่ว่าแม่มันคืออะไร หนูกลัว แม่ไปกับหนูได้ไหม ก็เลยต้องไปกะเจ้แกนี่แหล่ะค่ะ ถ่ายรูปแชะเดียวเสร็จสรรพเรียบร้อย ยิ้มแป้นนี่ไง รับรูปแล้วไปเขตพื้นที่การศึกษากันค่ะ 

 

ช่วงนี้ลูกสาวแม่จิ๊บมักได้รับคำถามจากผู้คนรอบข้าง สวัสดีจ๊ะหนูชื่ออะไรจ๊ะ หนูเรียนที่ไหน? คงเป็นคำถามคลาสสิคที่เด็กๆทุกคนต้องตอบ แม่เลยบิ้วเจ้แกใหญ่เลยว่าหนูเรียนที่บ้านนะลูก เป็นเด็กโฮมสคูล แค่นี้เจ้แกก็ดีใจมาก (แค่ได้ยินว่าที่บ้านเนี่ยนะ) เย้ๆดีใจหนูเรียนที่บ้าน หนูชอบอยู่ที่บ้านกะปู่ย่าน้องภูกะป๊ะป๋า หนูรักแม่ …….แหม่ๆ เดี๋ยวนะ เข้าใจอะไรแค่ไหนกับคำว่าเรียนที่บ้าน 555 ลูกไม่อยากไปโรงเรียนค่ะ เจ้แกจะตกใจมากเวลาแม่บอกว่าไปโรงเรียนกันไหม น้องเวียงพิงค์เคยไปโรงเรียนอยู่ช่วงหนึ่งนะคะ พอออกมาทำโฮมสคูล ถามว่าคิดถึงเพื่อนไหม ก็คิดถึง แต่ถามว่าไปโรงเรียนไหม ไม่เอาท่าเดียว สรุป….หนูเรียนที่บ้านนะคะลูก ชื่อว่า “บ้านเรียนวนิษา-ภูมิภัทร” เข้าใจไหมคะ  ลูกก็ทำท่าเข้าใจ เดี๋ยวคงถูกถามมากขึ้น คงได้ตอบบ่อยๆ

*********

ได้รูป 1นิ้ว 2 ใบตามที่เจ้าหน้าที่บอก ก็เดินทางไปหาเจ้าหน้าที่เขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 ซึ่งก็คือพี่กูล และแน่นอน ก่อนไปควรนัดเวลากับเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อยนะคะ พี่กูลเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมการศึกษา ที่ช่วยเหลือดูแล ให้คำแนะนำเราเป็นอย่างดี ขอบพระคุณพี่กูลเป็นอย่างสูงค่ะ

 

 

ในความเป็นเด็กอนุบาลนั้น หลายคนคงกังวลเรื่องการเขียนแผนนะคะ แม่จิ๊บอยากบอกว่าไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะการประเมินเขาไม่ได้ใช้คะแนนค่ะ ถ้าใช้ก็ใช้เพียงแค่เทียบระดับเท่านั้น เพราะเขาใช้ตัวบ่งชี้เวลาประเมินเด็กวัยนี้ค่ะ พอใช้ ปานปลาง ดี ดีมาก ใช้แบบนี้ ไม่ได้เอาคะแนนหรือจตัวชี้วัดมาวัดนะคะ

 

 

ได้บัตรแล้ว ฉลองเลยเจ้ แหม่ เล่นใหญ่เหลือเกินลูกเรา 5555 แค่อยากบอกว่า

เราไม่ต้องปลุกลูกเช้าจนเกินไปในวัยแค่นี้

เราทำมีเงินเหลือจากรายจ่ายอื่นๆเช่นค่าชุด ค่าเดินทาง ค่ากิจกรรมพิเศษที่ไม่ต้องจ่ายแล้วเมื่อลูกเรียนที่บ้าน

ทำประกันชีวิตแค่คนละเล่มก็เพียงพอ(ไปยกเลิกประกันชีวิตลูกอันที่ไม่จำเป็น) ลูกป่วยน้อยลงเราก็ไม่ต้องพาลูกไปแอดมิทเมื่อป่วยบ่อยๆ

ถ้าเราอยากให้ลูกไปโรงเรียนตอน ป.1 อายุย่างสู่ 7 ขวบ เราก็มีเวลาเก็บตังค์อีกหลายปีเลย

เราไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเทอมลูกอีกแล้ว แต่ได้เงินสนับสนุนพาลูกไปทำอะไรสนุกๆแทน ดีขนาดนี้ก็ฉลองกันเถิด

ฉลองที่เราได้มีเวลาทำอะไรเยอะแยะ ฉลอง ฉลอง เย้ๆๆๆ

 

 

อวดหน่อยนะคะ เจ้แกภูมิใจของแกมาก

 

 

 

*******ข้อมูลทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ Yimwhan Family ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ใดๆทั้งสิ้น 

 

ส่วนคนน้องอีก 2 ปีเจอกันที่เขตนะฮะ ตามพี่มาติดๆ

 

 

โฮมสคูลดูจะเหมาะกับวิถีชีวิตเรามากที่สุดแล้วตอนนี้ แม่สะดวกแบบนี้ แม่ก็ยังไปทำงานประจำตอนเช้า และแน่นอนลูกไปส่งค่ะ ก่อนลงรถจุ๊บๆกัน ลูกบอกว่าตอนเย็นหนูจะมารับแม่นะ พอเสาร์อาทิตย์ แม่ไม่รับงานนอก พาลูกไปว่ายน้ำ ทำขนม ทำกิจกรรม สนุกสนาน แล้วพาไปขายหนังสือช่วยแม่ ลูกไปดิวลูกค้ากับพ่อ ไปไหนไปกัน ไปง่ายๆ พ่อไปดิวงานกับลูกค้าก็จะสำรวจเส้นทางว่ามีอะไรสนุกๆน่าแวะ สวนสัตว์บ้าง แมลงบ้าง ก็พาลูกแวะ ตกค่ำมากินข้าว ก่อนนอนฟังนิทาน อ่านหนังสือ life cycle ดูเหมือนจะง่ายๆสบายๆ แต่อัดแน่นด้วยความรักความสนุก เราต้องการแค่นี้ล่ะค่ะ

 

 

ถ้าจะถามว่า เราคิดว่าทำโฮมสคูลจะสำเร็จไหม?

ถ้าความสำเร็จคือความสุขของลูกและครอบครัว ตอบได้เลยว่าเราสำเร็จทุกวัน…….เรามีความสุขกับวิถีนี้ทุกวัน

สเต็ปต่อไปคือตารางเรียนค่ะ ว่าจะให้ลูกเรียนอะไรบ้าง จริงๆแล้วใครจะไม่ทำก็ได้ค่ะ แต่สำหรับบ้านแม่จิ๊บ แม่สะดวกแบบนี้ แม่ต้องมีตารางไม่งั้นแม่ลืม ลูกก็ต้องมีตาราง แต่ตารางของเด็กอนุบาลมันก็จะยืดหยุ่นหน่อยตามวิถีชีวิตและอาชีพของผู้ปกครอง ไม่ได้เป๊ะๆทุก 45 นาทีเหมือนในโรงเรียนนะคะ เพราะเราก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวควบคู่ไปกับการทำโฮมสคูลค่ะ

ปิดท้ายด้วยรูปนี้ รูปที่ลูกตื่นเต้นมาก ที่สามารถเป่าฟองอากาศและดำน้ำเป็น (หลังจากที่ลูกเคยอยากดำแต่ไม่รู้จังหวะ ลองดำแล้วสำลักน้ำร้องไห้หนักมาก) พอไปเรียนก็ดำน้ำได้ก็โชว์แม่ใหญ่เลย แม่ดูนี่ๆ พอแม่มองก็โชว์อย่างภูมิใจเป่าฟองอากาศบุ๋งๆ แม่ได้แต่มองแล้วบอกว่าเก่งมาก ชูนิ้วโป้งให้แล้วบอกลูก สุดยอดเลยแม่ขอชื่นชม ยิ้มแก้มปริ ทำไมแม่มีความสุขก็ไม่รู้…..

 

การให้ลูกเรียนรู้แบบโฮมสคูล คือการศึกษาอีกรูปแบบหนึ่งที่เราจัดให้ลูกเพื่อความสอดคล้องตามวิถีชีวิตของครอบครัวเรา….วิธีที่ดีที่สุดคือ …วิธีที่เราสะดวก ไม่ต้องตามใคร แต่ตามใจเรา ในขณะเดียวกัน “เอาความสุขเป็นที่ตั้ง” แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว


**follow us**

เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ
Instragram : yimwhanfamily
เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com
Youtube : Yimwhan Family
อีเมลล์ : [email protected]
Line Id : @yimwhanfamily

 

Author: Yimwhanfamily

Yimwhan Family แบ่งปันเรื่องราวแม่มือใหม่เลี้ยงลูกเชิงบวก ที่จัดการศึกษาทางเลือกในแบบ Life Long Learning สร้างเด็กรักการอ่าน (Read to Grow) และท่องเที่ยวสไตล์เด็กและครอบครัว โดย Real Mom "แม่จิ๊บ" Working Mom ที่มีความฝัน และ Passion คือ "เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ"  

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these <abbr title="HyperText Markup Language">html</abbr> tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>

*