บทความนี้เขียนจากประสบการณ์จริงของบ้านเรียนวนิษา-ภูมิภัทร (เขียนในวันที่หน่วยซีลค้นพบทีมหมูป่าอคาเดมี่ติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนพอดี 2 ก.ค.61)
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นประโยชน์กับครอบครัว ผู้เลือกการศึกษาทางเลือกให้ลูกแบบบ้านเรียนทุกระดับ แต่ระดับที่แม่จิ๊บสามารถลงรายละเอียดได้มากสุดคือในระดับ “ปฐมวัย” เพราะเกิดจากประสบการณ์จริง เนื่องจากกำลังอยู่ในระหว่างการจัดบ้านเรียนในระดับนี้ให้ลูก 2 คน (4.1 ขวบ และ 1.8 ขวบ ค่ะ)
ผู้เขียนบทความขอให้ข้อคิดสะกิดท่านได้ทราบว่า “Home School ไม่ได้เหมาะกับทุกบ้าน….แต่…..ไม่ว่าจะทำ “Home School หรือเรียนในโรงเรียนแบบปกติ หรือ เรียนในโรงเรียนทางเลือก ท่านสามารถนำวิถีโฮมสคูลไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม” การที่ท่านไม่ได้ทำโฮมสคูลให้ลูก ไม่ได้หมายถึงความล้มเหลวแต่อย่างใด การเรียนรู้ใดๆที่ยึดความสุขเป็นที่ตั้ง ย่อมเป็นการเรียนรู้ที่แท้จริงไปตลอดชีวิต…..
การศึกษาทางเลือกแบบบ้านเรียน มีที่มาอย่างไร?
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ให้ประชาชนมีความเสมอภาค มีอิสระในการเลือกรับการศึกษา และการศึกษาทางเลือกก็จะได้รับความคุ้มครองและส่งเสริมจากรัฐ เป็นร่มใหญ่และเป็นที่มาของข้อ 2
- พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 มาตรา 12 กำหนดให้บุคคล ครอบครัวมีสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (นั่นคือที่มาของบ้านเรียนหรือโฮมสคูลค่ะ) จึงเป็นร่มและที่มาของข้อ 3
- กระทรวงศึกษาธิการ จึงออกกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว พ.ศ.2547…..เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้แก่ผู้ที่จะจัดการศึกษาแบบบ้านเรียนค่ะ
เมื่อเรารู้ความเป็นมาและร่มใหญ่ว่าเราอยู่ตรงไหนของกระบวนการศึกษาในเมืองไทย เราก็จะมั่นใจค่ะว่าเราเดินตามทางเลือกที่ถูกกฎหมาย ทีนี้…กระบวนการต่อไปนี้คือการทำบ้านเรียนระหว่าง ครอบครัว “ร่วมกับ” เขตพื้นที่การศึกษา นะคะ
ทุกคนรู้แล้วนะคะว่าทำบ้านเรียนมีอย่างน้อย 4 แบบ
1.ไม่จดทะเบียนใดๆทั้งสิ้นเพราะ 0-6 ขวบ ไม่ได้เป็นการศึกษาภาคบังคับ
2.จดกับเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อประเมินตามกระบวนการของรัฐและรับเงินประเมิน(คือสิ่งที่แม่จิ๊บเขียนอยู่ตอนนี้)
3.จดกับหลักสูตรต่างประเทศ
4. จดใต้ร่มโรงเรียน เช่น โรงเรียนรุ่งอรุณ
……โอเค..เข้าใจตรงกันนะ
ทีนี้เอกสารที่แม่จิ๊บทำตั้งแต่เรียนรู้ว่าโฮมสคูลคืออะไรไปจนถึงจดร่วมกับเขตและได้บัตรนักเรียนของลูก แม่จิ๊บสรุปเอกสารที่ต้องรู้มาให้ 9 ข้อ ซึ่งข้อ 9 พิเศษเพราะเป็นไฟล์เวิร์ด เวลาเขียนแผนก็ไม่ต้องไปพิมพ์แบบฟอร์มใหม่นะ (หลายคนต้องการมากมาย)
เอกสารที่แม่จิ๊บส่งให้ จะอยู่ในขั้นตอนการขอทำบ้านเรียน – การได้รับบัตรนักเรียนเท่านั้น ซึ่งโดยกระบวนการนั้นเหมือนกันทุกเขต แต่อาจมีข้อปฏิบัติยิบย่อยบางอย่างที่ไม่เหมือนกันนะคะ
ถ้าได้เอกสารแล้วอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ขอเรียนเชิญคณะบ้านเรียนมือใหม่ทั้งหลายไปอ่าน ที่เขียนไว้นะคะ เป็นขั้นเป็นตอน งงตรงไหนก็แชทมาถามแม่จิ๊บที่เพจเลี้ยงลูกปลูกผักรักหนังสือ >>> https://www.facebook.com/yimwhanfamily2016
คลิกอ่านแต่ละสเต็ปได้ตรงนี้เลย
Step 6 แบบตอบรับอนุญาตให้จัดการศึกษาจากเขตฯ และทำบัตรนักเรียน Home School |Yimwhan Family|
Step 7 เด็กโฮมสคูลก็มีบัตรนักเรียนนะคะ Home School Student ID |Yimwhan Family|
*****และตอนพิเศษ
7 ข้อดี!!ทำไม…จึงควรโฮมสคูลในระดับปฐมวัย 0-6 ขวบ?? ช่วงเวลาทองของการเรียนรู้ |Yimwhan Family|
****อยากฝากทิ้งท้ายจั๊กหน่อย
- ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น ตามเอกสารที่แม่จิ๊บส่งให้ ถ้าจะให้ชัดเจน ปริ้นซ์ออกมาอ่านให้เข้าใจ
- พิจารณาว่าเราจะทำบ้านเรียนให้ลูกระดับไหน (มีผลกับการเขียนแผนการศึกษาและการประเมิน)
- มีข้อมูลของตนเองในใจ แล้วไปติดต่อเขตพื้นที่การศึกษาตามพื้นที่ๆท่านสังกัดอยู่ (อาจโทรไปขอคำแนะนำก่อน)
- เขตจะให้คำแนะนำท่านมา เตรียมตัวและปฏิบัติตามกระบวนการที่ตามเขตแจ้งไว้
- ครบถ้วนกระบวนการขอทำบ้านเรียน ต่อไปก็เตรียมตัวจัดตารางเรียนและเก็บร่องรอยเพื่อประเมินลูกค่ะ (อยากอ่านเรื่องนี้ รอหน่อยน๊ากะลังปั่นค่ะ)
***วีดีโออยู่ตรงนี้นะคะ มีรายละเอียดเพิ่มเติมให้ค่ะ
ขอให้แฮปปี้มีความสุขกับวิถีโฮมสคูลนะคะ อยากได้เอกสารทั้ง 9 ข้อทักมาที่เพจ เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ
หรือทักมาที่ Line id: @yimwhanfamily
**follow us** เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ Instragram : yimwhanfamily เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com Youtube : Yimwhan Family อีเมลล์ : [email protected] Line Id : @yimwhanfamily
ขอบคุณสาระดีๆ นะครับ รบกวนขอรายละเอียด 1- 9 ได้ทางไหนได้บ้างคับ และหากมีรายละเอียดต้องปรึกษา สามารถปรึกษาสะดวกได้ทางไหนได้บ้างครับ สนใจมากๆ คับ การนำเสนอก็เข้าใจง่ายดีมากๆ ชื่นชมมากๆ นะคับ