ค้นหา
Kids-Travel-Family

วันนี้จะมาแบ่งปันประสบการณ์เดินทางกับลูกจากเชียงใหม่ไปภูเก็ต ที่ทำเอาจุกเลยทีเดียว พร้อมวิธีตั้งสติและแก้ไขปัญหานะคะ

“สำเนาสูติบัตรทำพิษ ชีวิตวุ่นมาก!!!”

เรื่องมันมีอยู่ว่า ปกติเดินทางขึ้นเครื่องบินกับลูกตลอด และใช้เอกสารสูติบัตรตัวจริงและสำเนาสลับกันไปสำหรับการเดินทางในประเทศ ที่พกทั้งสำเนาและฉบับจริงเพราะเผื่อพลาดเค้าเรียกตรวจจะได้มีทั้งสองอัน

แต่บอกตรงๆว่าส่วนมากใช้ “สำเนา” มากกว่าค่ะ  ซึ่งที่ผ่านมาแม่จิ๊บก็เดินทางได้ไม่มีปัญหาใดๆ และไม่เคยถูกเรียกตรวจฉบับจริง


แต่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังเชคอิน

พนักงานสายการบินแห่งหนึ่งก็แจ้งมาว่า “จะต้องใช้สูติบัตรตัวจริงเท่านั้นนะคะ”

เราก็เฮ้ยยยย ซวยแล้ว!!! ไม่ได้เอามา เอาไงดีทีนี้ การเดินทางของคน 7 คน มี 2 ครอบครัว ทริปจะล่มไหมเนี่ย

เดินมาปรึกษากัน ทำไงดีๆ  เราอุตส่าห์เผื่อเวลาเชคอิน 1.20 ชม. เพื่อจะพาลูกไปนั่งพักในเล้าจน์ก่อนเดินทางแบบสบายๆ โทรบอกที่บ้านหาสูติบัตรให้แล้วเอามาส่ง ปรากฎไม่มีใครรับสายเลย  คนที่รับสายคือติดธุระอยู่นอกบ้าน กลับไปเอาให้ไม่ทันแน่ๆ

เดินไปถามพนักงานใหม่ ว่าเราเคยใช้ “สำเนา” ในการเดินทาง ก็เดินทางได้ตลอด  เคยเอาตัวจริงมาแล้วไม่ได้ใช้ เลยไม่เอาตัวจริงมาแล้ว กลัวหาย กลัวขาด

ปรากฎพนักงานตอบกลับมาว่า “ไม่ได้จริงๆค่ะ เป็นกฎที่เพิ่งออกมาเมื่อ 17 กันยายน 2561 เราแจ้งหน้าเว็บไซต์แล้วนะคะ” (กฎเพิ่งออกมาไม่ถึงเดือนก่อนเราเดินทาง)

เครียดนะคะพูดเลย เครียดจริงๆเพราะทริปเราจองข้ามปี เดินทางหลายคน มีเพื่อนพ่วงมาด้วย ลูกเพื่อนด้วย ลูกเราด้วย คือแล้วจะเอายังไงดี

ผู้โดยสารทั้ง 7 ชีวิตมาคุยกันเอง ส่วนพนักงานได้แต่บอกว่า “ไม่ได้ๆเป็นกฎๆ” “วันก่อนก็มีคุณแม่คนหนึ่งเป็นแบบนี้แล้วไม่ได้เดินทางค่ะ ต้องเอาฉบับจริงมานะคะ”

เพื่อนเลยขอคุยกับคนที่สามารถช่วยเราได้มากกว่าพูดว่า “ไม่ได้ๆ มันเป็นกฎ ได้ไหม” อยากได้การช่วยแก้ปัญหา ไม่ใช่การปล่อยเราไปเผชิญชะตากรรมกันเอง คิดภาพคนมีลูกเล็กเดินทาง (คนเป็นพ่อแม่จะเข้าใจมากๆ)

พนักงานไปตามพนักงานอีกคนมา ซึ่งแลดูอาวุโสกว่า เราเล่าปัญหาให้ฟัง พนักงานคนนั้นก็แจ้งว่า “ไม่ได้ มันเป็นกฎที่เพิ่งออกมาใหม่ ทุกสายการบินต้องใช้กฎนี้ ต้องใช้สูติบัตรตัวจริงเท่านั้นค่ะ” 

วินาทีนั้นคนที่น้ำตาร่วงไม่ใช่ลูกค่ะ แม่นี่แหล่ะ น้ำตาร่วงเลย เพราะทั้งทริปอาจล่ม มีต่อรถเช่า โรงแรมที่จองไว้ล่วงหน้าต้องจัดการใหม่หมด เราทำให้เพื่อนต้องมาแก้ปัญหาที่เกิดจากความไม่รอบคอบของเรา ส่วนเด็กๆวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน  

ลูกถามว่า “แม่ร้องไห้ทำไม?” ได้แต่ตอบลูกว่า “แม่ผิดเองค่ะ” นั่งลงบนพื้นสนามบินตรงเคาท์เตอร์นั่นแหล่ะ คือเราก็เข้าใจพนักงานนะว่ากฎต้องเป็นกฎ แต่มันมีวิธีแก้ไขปัญหาอีกไหม 

 

แม่จิ๊บบอกเพื่อนให้ไปเชคอินเดินทางไปก่อนเลย เราคงต้องซื้อตั๋วใหม่แน่ๆ 4 คนพ่อแม่ลูก เพื่อนแนะนำให้เราเดินทางไปก่อน แล้วให้พ่อพาลูก 4 ขวบ กับ 2 ขวบรอเอกสารที่ทางบ้านเอามาส่งแล้วค่อยตามไป พวกเราพยายามคิดแก้ไขทุกวิถีทาง พ่อจะเดินทางกะลูก 2 คนได้ยังไง เด็กกำลังซน อีกคนก็ยังเด็กมาก ที่สำคัญพอถามพนักงานเรื่องตั๋วไฟท์ต่อไป พนักงานแจ้งว่า จะมีอีกประมาณ 4 โมงเย็น ต้องไปต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ แล้วค่อยต่อไปภูเก็ต ถึงภูเก็ตประมาณ 4 ทุ่ม ราคาตั๋วคนละ 4900 บาท!!!

แม่เจ้า สามีถึงกับบอกว่า “บ้าไปแล้ว”  เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆเหลือเวลาอีกประมาณ 45 นาทีที่เครื่องจะออก เราถอดใจแล้วค่ะ แต่เพื่อนไม่ยอม มันต้องมีวิธีแก้ไข ใครบางคนก็บอกว่า “ไปคัดสำเนาที่แขวงก็ได้ น้องเกิดที่ไหนคะ”  

น้องเกิดที่ …… ค่ะ งั้นสามารถไปคัดสำเนาที่ ….. ได้เลยค่ะ

สามีไม่รอช้ารีบคว้าบัตร ปชช.กับสูติบัตรฉบับสำเนาของลูกไปด้วย ขึ้นแท็กซี่อย่างไวว่อง ส่วนเราก็นั่งป้อนนมคนเล็กซึ่งกำลังจะหลับ คนโตวิ่งเล่นสบายใจ วิ่งมาถามแม่ “แม่ร้องไห้ทำไม อายเค้า” แปร่ววววว อายลูกอ่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะน้ำตาไหล แต่มันมาเอง เง้ออออ  

ในขณะนั้นแม่จิ๊บเริ่มคิดแผนสำรอง คงต้องจองตั๋วสายการบินอื่น ไปจองของอีกที่ปรากฎไม่มีเที่ยวบินตรงเชียงใหม่-ภูเก็ตแล้ว เพราะเที่ยวล่าสุดเพิ่งออกไป เลยถามเจ้าหน้าที่สายการบินนั้นว่าว่า สายการบินนี้เวลาเชคอินของเด็กใช้สูติบัตรตัวจริงหรือสำเนาคะ เจ้าหน้าที่ตอบมาว่า “สำเนาค่ะ” ถามไปอีกรอบกลัวหูฝาด “สำเนาใช่ไหมคะ” เจ้าหน้าที่สายการบินนั้นตอบกลับมา “สำเนาค่ะ” อืมมมมมมมมมมม!!!!!

เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ ใจเต้นตึกตักยังพอมีหวัง สามีโทรมาบอกว่าอยู่ที่แขวงแล้ว มองดูเวลาเหลืออีก 25 นาที สายการบินมาช่วยดูแลแก้ปัญหา ช่วยการเชคอินและแนะนำวิธีที่เร็วที่สุด

จากนั้นสามีที่อยู่แขวงแล้วก็โทรมา พี่ไม่มีบัตรประชาชน บัตรประชาชนอยู่ที่น้องจิ๊บบบบ!!! อ๊ากกกกกก ตกเครื่องแน่แล้ว ค้นๆๆ แม่โอ๋บอก แก มันอยู่ที่สามีแกแหล่ะชั้นเห็น เลยโทรกลับไปบอกสามีให้หาดูใหม่ “แล้วขณะนั้นสามีก็หากันจนเจอ” โอ้ยยย ใจจะวาย โลกชุลมุนวุ่นวายที่แท้ทรู

พนักงานที่ออกมาช่วย ขอชื่นชมนะคะ ช่วยได้เยอะมากๆ ช่วยประสานช่วยดูแล ให้คำแนะนำ และขอโทษเราที่ไม่ได้บอกการช่วยเหลือให้ทันท่วงที 

เพื่อความรวดเร็ว สายการบินแจ้งว่าให้ไปรอที่จุดเข้าตรวจสัมภาระตรงเกทได้เลย ออกตั๋วให้ทุกคนและไม่ต้องให้สามีมาเชคอินที่เคาท์เตอร์แล้วให้ไปที่ทางเข้าเกทเลย แต่แม่จิ๊บก็ต้องรอเอกสารกับสามี เราให้เพื่อนแม่จิ๊บเชคอินเข้าไปก่อนเพื่อความรวดเร็ว มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ลุ้นจริงๆ

แขนหนึ่งอุ้มลูก มือหนึ่งจูงลูก โทรหาสามี ถึงไหนแล้ว ถึงไหนแล้ว ถึงไหนแล้ว โทรหากันทุก 3 นาที ถึงไหนแล้ว หน้าโรงพยาบาลเชียงใหม่รามแล้ว หน้าสวนปรุงแล้ว หน้าแอร์พอร์ตแล้ว ประตูทางเข้าแล้ว ดีที่ลูกทั้งสองไม่งอแงเลย เจ้าหน้าที่สายการบินก็ ว หากันเป็นระยะๆ บางส่วนไปรอสามีที่ทางเข้าประตูสนามบิน ประกบแม่จิ๊บที่ทางเข้าเกท คือขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยเหลือดูแลเรา ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกทั้งรู้สึกแย่ทั้งรู้สึกขอบคุณ

สามีวิ่งมาพร้อมสูติบัตรลูก เอาเอกสารทุกคนไปตรวจที่เกท เข้าเกท ขึ้นเครื่องเป็นครอบครัวสุดท้าย เจ้าหน้าที่ขอโทษไปตลอดทาง

เฮ้อออออออ ชีวิตหนอ ขึ้นเครื่องปุ๊บ อาหารที่เรารีเควสไว้ไม่ได้อีก ลูกก็กินอาหารผู้ใหญ่วนไป (เรารีเควสอาหารไปนะคะทั้ง baby ทั้ง infant มีหลักฐานด้วยเพราะแม่สองคนเวลาจองตั๋วแคปให้กันดูทุกขั้นตอน แต่คิดว่าช่างมันเถอะ) สุดท้ายก็ได้เดินทางเฉียดฉิว ทั้งอยากขอโทษทุกคนที่ทำให้วุ่นวาย อยากขอบคุณสามีที่ตัดสินใจรวดเร็ว ขอบคุณลูกที่ไม่งอแง ขอบคุณเพื่อนที่ช่วยแก้ไขปัญหา และขอบคุณสายการบินนะคะ เรารู้ว่าเราก็ผิด 


สรุปแล้วสิ่งที่อยากจะเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆคือ

1.ตั้งแต่ 17 กันยายน 2561 เดินทางกับลูกใช้สูติบัตรตัวจริงเท่านั้น สายการบินไหนอนุโลมให้ใช้สำเนาก็ช่าง เอาตัวจริงไปเลยเพื่อความชัวร์ ส่วนสายการบิน พวกคุณเองยังใช้ไม่เหมือนกันแล้วจะไม่ให้ผู้โดยสารสับสนได้ยังไง สรุปไปเลยให้ใช้สูติบัตรตัวจริงเท่านั้น (ที่ผ่านมาที่ใช้สำเนาได้เพราะเค้าอนุโลมนะคะ ต่อไปใช้ตัวจริงเท่านั้น)

2.ขั้นตอนจองตั๋วเดินทางถ้ามีเด็กโปรดขึ้นหมายเหตุหรือป๊อบอัพเตือนเลยว่า “ใช้สูติบัตรฉบับจริงเท่านั้น” จะช่วยผู้โดยสารได้มากๆค่ะ เช่น กฎที่ท่าอากาศยานออกมาใหม่ มาอัพเดททีหลังต้องแจ้งผู้โดยสารด้วย ยากมากที่เราจะไปเจอข้อมูลอัพเดทหน้าเว็บ 

3.การแก้ไขปัญหาช่วยผู้โดยสารซึ่งเป็นลูกค้าอย่างรวดเร็วเป็นขั้นตอนฉับไว โปรดให้คำแนะนำในฐานะผู้ที่เชี่ยวชาญทำงานเรื่องการเดินทางโดยเฉพาะ โปรดให้ช้อยส์แนะนำเราด้วย อย่าให้เราไปเผชิญชะตากรรมคิดวิธีแก้ไขกันเอง เพราะมันมีวิธีแก้ไขชัดเจนอยู่แล้ว เดินทางกับเด็ก มันมีเยอะสิ่งมากที่เราต้องดูแล เราทิ้งเด็กไม่ได้ แยกกันก็ลำบาก ขอวิงวอนให้เห็นใจเราด้วยค่ะ 

4.วิธีการให้คำแนะนำกรณีที่พ่อแม่ใช้สูติบัตรฉบับก๊อปปี้ไปแล้วเดินทางไม่ได้ โปรดอย่าแนะนำว่า “บ้านนั้นก็เดินทางไม่ได้ค่ะ เพราะไม่มีเอกสารตัวจริง” หรือ “บ้านนั้นก็ต้องรีบกลับไปเอาเอกสารตัวจริงค่ะ” เพราะวิธีการแก้ไขปัญหามันมีอย่างน้อย 3 ข้อ ตามข้อ 5 ยิ่งเรารู้เร็ว มีเวลา ก็จะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีค่ะ

5.วิธีแก้ไขสถานการณ์เด็กไม่สามารถเดินทางได้เพราะไม่มีสูติบัตรตัวจริง (ประเมินสถานการณ์แล้วเลือกใช้เอา)

  • เด็กมีพาสปอร์ตหรือไม่ ถ้ามี ใช้พาสปอร์ตแทนใบสูติบัตรจะขึ้นเครื่องได้ 
  • บ้านเด็กอยู่ใกล้หรือไม่ ถ้าใกล้รีบกลับไปเอาฉบับจริงมาด่วน
  • เด็กเกิดแขวงไหน ถ้าใกล้สนามบิน ไปคัดสำเนาใบสูติบัตร (ต้องคัดที่แขวงที่เกิดเท่านั้น อย่าลืมกำชับด้วย) 
  • ถ้าไม่มีทั้ง 3 ข้อ หรือเวลาไม่พอแล้ว ไปซื้อตั๋วใหม่ หรือจัดทริปใหม่ หรือยังไงให้ไปตัดสินใจกันดู
  • พ่อแม่อย่าสิ้นหวัง ตราบใดที่เราหาทางออก แก้ไขไปทีละเปราะ ช่วยกัน มันจะมีทางออก

6.ที่สุดในที่สุดเราต้องรอบคอบ ที่ จนท.เค้าตรวจเราเยอะเพราะความปลอดภัยของลูกเรานั่นแหล่ะค่ะ แม่จิ๊บเฉลียวใจละว่าเอาสูติบัตรตัวจริงไปดีไหม แต่ไม่ดีกว่ามันไม่ได้ใช้ เป็นไงล่ะ ดังนั้น มีพาสปอร์ตก็ให้เอาไป สูติบัตรตัวจริง สำเนา ขนมันไป เพื่อความอุ่นใจน๊า 

ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้จะโยนความผิดให้ใครนะคะ เพราะคิดว่าเราเองก็ผิดไม่รอบคอบ แต่อยากให้การช่วยเหลือ การแก้ปัญหาช่วยผู้โดยสาร เป็นไปอย่างมีสเต็ปขั้นตอน ท่วงทันเวลา มากกว่าบอกทีละอย่าง ทีละข้อ

เอกสารทะเบียนบ้านที่คัดสำเนามา เหมือนเอกสารตัวจริงทุกอย่างค่ะ (ต่างที่มีคำว่าสำเนา)

 

*******ท้ายสุด กลับเที่ยวครั้งนี้คุยกะเพื่อนไว้คงต้องไปทำพาสปอร์ตให้ลูกชีวิตจะได้ไม่ต้องลุ้นแบบนี้ รอรีวิวทำพาสปอร์ตนะคะ ^___^ 

และแน่นอน ขอบคุณเจ้าหน้าที่สายการบินดังกล่าวทุกท่านและกัปตันที่พาเราเดินทางจนมีทริปดีๆจนได้ พี่ภาคพื้นดินขอโทษขอโพยเราใหญ่ เราก็รู้สึกผิด สายการบินก็ผิด Customer service ช่วยแก้ไขปัญหานี้ด้วยนะคะ มนุษย์แม่เดือดร้อนมาก ลุ้นจนไม่มีเวลาไปเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูก ไงล่ะ ฉี่ลูกล้นแพมเพิสราดกุงเกงอิแม่เนี่ย วุ้ยยยย อันใดก่อดายต่ะ!!

***** สุดท้าย เอาค่าใช้จ่ายการคัดสำเนาทะเบียนบ้านมาฝากค่ะ คัดมา 4 ชุด ชุดละ 10 บาท ทำเร็วมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าใช้เวลาแค่ 45 นาทีเดินทางไปคัดสำเนากลับมาทันเชคอิน สามีจ่ายค่าแท็กซี่ไป 300 ให่้ทิปอีก 100 ขอบคุณพี่แท็กซี่ 

 

 


แม่จิ๊บหวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์นะคะ ใครเข้ามาอ่านอย่าพลาดเหมือนเราน๊า

**follow us**

เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ
Instragram : yimwhanfamily
เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com
Youtube : Yimwhan Family
อีเมลล์ : [email protected]
Line Id : @yimwhanfamily

 

Author: Yimwhanfamily

Yimwhan Family แบ่งปันเรื่องราวแม่มือใหม่เลี้ยงลูกเชิงบวก ที่จัดการศึกษาทางเลือกในแบบ Life Long Learning สร้างเด็กรักการอ่าน (Read to Grow) และท่องเที่ยวสไตล์เด็กและครอบครัว โดย Real Mom "แม่จิ๊บ" Working Mom ที่มีความฝัน และ Passion คือ "เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ"  

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these <abbr title="HyperText Markup Language">html</abbr> tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>

*