Diary สอนโฟนิกส์เด็กๆ
แม่คิดว่าทักษะภาษาอังกฤษสำคัญมาก ไม่ใช่แค่การสื่อสารเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ สิ่งที่อัพเดท ใหม่และทันยุคทันสมัย “มักอยู่ในรูปแบบของภาษาอังกฤษ” ดังนั้นจึงคิดว่าอยากสอนเด็กๆให้เร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้เป็นธรรมชาติ และตั้งเป้าสอนก่อนเด็กๆ 7 ขวบ (ความสามารถในการเรียนรู้ภาษาของเด็กๆจะดีที่สุดในช่วงอายุ 0-7 ขวบ) แม่ไม่อยากเสียเวลาทองไป และอีกหนึ่งในใจแม่ที่อยากสอนลูกมากๆ เพราะ แม่อยากให้สิ่งนี้เป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง ฝึกฝนภาษาอังกฤษ เพื่อสอนเด็กๆ และเรียนรู้ไปพร้อมเด็กๆ ไม่ใช่แค่เด็กๆเท่านั้นที่จะโตไปพร้อมกับโฟนิกส์ ตัวแม่เองก็ด้วย แม่จะพยายามนะ อยากหาเพื่อนค่ะ ชวนทุกบ้านมาเลี้ยงลูกให้โตไปกับโฟนิกส์กันนะคะ
การทำ Diary นี้จึงเป็นการเก็บพัฒนาการแม่และลูกเรื่องโฟนิกส์ ไม่ใช่การออกมาสอนภาษาอังกฤษหรือโฟนิกส์ค่ะ ที่สำคัญสอนวันละน้อย เน้นทำทุกวัน ไม่เร่งเด็กน๊า ถ้าเป็นประโยชน์กับบ้านอื่นๆก็ยินดีค่ะ
โฟนิกส์คืออะไร
Phonics คือวิธีการเรียนภาษาอังกฤษรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะเรียนตั้งแต่หน่วยเสียงต่าง อ่านเขียนและออกเสียงภาษาอังกฤษโดยใช้หลักการถอดรหัสเสียงและการผสมเสียงตัวอักษร a ถึง z ทั้ง 26 ตัว
ยกตัวอย่าง A ชื่ออักษร (Name) คือ เอ แต่หน่วยเสียงของอักษร (Sound) คือ แอะ
คำว่า BAT ถ้าเราอ่านตามชื่ออักษรคือ B บี A เอ T ที = แบ็ท แปลว่า ค้างคาว (แม่จิ๊บเรียนมาแบบนี้ทำให้ต้องจำเป็นคำๆไป)
แต่อ่านแบบโฟนิกส์ B เบอะ A แอะ T ทึ = แบ็ท = เด็กที่เรียนแบบนี้ เค้าจะประสมคำโดยอัตโนมัติเมื่อเจอคำใหม่
HAT = เฮอะ – แอะ – ทึ = แฮ็ท
CAT = คึ – แอะ – ทึ = แค็ท
FAT = ฟึ – แอะ- ทึ = แฟ็ท แบบนี้เป็นต้นค่ะ
โฟนิกส์สำคัญยังไง/ข้อดีของการเรียนโฟนิกส์ในแบบแม่จิ๊บ
- 1.เด็กๆจะแยกแยะหน่วยเสียงพื้นฐานเป็น และเด็กจะอ่านคำใหม่ๆได้ โดยออกเสียงจากการผสมคำ
- 2.เด็กจะเริ่มจากการพัฒนาทักษะการฟัง (Listening) และสามารถโต้ตอบได้ (Speaking)
- 3.แม่จิ๊บเลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือควบคู่การเลี้ยงให้โตไปกับโฟนิกส์ เมื่อน้องพัฒนาทักษะการฟังและพูด น้องก็จะพัฒนาการอ่านตามมา (Reading)
- 4. เด็กจะพัฒนาทักษะการสะกดคำต่อยอดไปถึงทักษะการเขียนได้ในที่สุด (Spelling และ Writing) อย่างเป็นธรรมชาติ
ใครสอนให้เด็กๆ
แม่เองไง ถ้าไม่ใช่แม่จะเป็นใคร 555 แม่ที่ีไม่ได้เรียนโฟนิกส์มานี่แหล่ะ แม่จับต้นชนปลายนานอยู่ทีเดียวว่าจะสอนยังไง เพราะไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี จริงๆสื่อในยุคนี้มีเยอะมาก แต่แม่คิดว่าควรมีหลักอะไรบางอย่างให้จับและเป็นแนวทาง “การเรียนรู้จากคนเก่งจะทำให้เราไปได้ไว” โชคชะตาพาให้มารู้จักกับมนุษย์แม่ที่เคยเป็นเหมือนกันเป๊ะ
ย้อนไปเมื่อเกือบ 9 ปีก่อน มีคุณแม่คนหนึ่งที่มีความตั้งใจแรงกล้าที่จะสอนโฟนิกส์ลูก โดยที่แม่คนนี้ไม่เคยมีความรู้เรื่องโฟนิกส์เช่นกัน เธอบอกว่าความรู้ภาษาอังกฤษของเธอไม่ได้เริ่มต้นที่ศูนย์ แต่เริ่มจากติดลบ!! เธอเล่าว่า เธอเริ่มสอนโฟนิกส์ให้ลูกตอน 2 ขวบ เธอทำการบ้านอย่างหนัก ดึกดื่นเที่ยงคืนเธอฝึกอ่านคำศัพท์และเตรียมการสอน เพื่อจะได้นำมาสอนลูกในวันถัดไป (บ้านเธอสอนลูกสองภาษา เธอรับหน้าที่ภาษาอังกฤษ ส่วนสามีเป็นภาษาไทย นั่นหมายถึงเธอควบคู่การสอนโฟนิกส์ไปกับการสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษา) สอนวันละ 2 ตัวบ้าง 5 ตัวบ้าง จนมาถึงวันนี้ เวลาผ่านไปรวดเร็ว 9 ปีกว่า ลูกสาวตัวน้อยวัย 9 ขวบของเธอ อ่านหนังสือด้วยโฟนิกส์ฉะฉาน น่ารักน่าฟัง ยิ่งมารู้ความเป็นมาของ “การเดินทางของภาษาอังกฤษของบ้านนี้” แม่จิ๊บยิ่งทึ่งไปใหญ่ ใช่ค่ะ แม่จิ๊บกำลังพูดภึง แม่ตุ๊กและน้องพลอย คุณแม่ที่ทำ Homeschool ให้ลูก ควบคู่การสอนภาษามาจนเห็นผลชัดเจนในวัย 9 ขวบ (มีคลิปน้องพลอยอ่านภาษาอังกฤษด้วยการใช้โฟนิกส์ท้ายบทความค่ะ) และแน่นอน แม่ตุ๊กได้เก็บประสบการณ์ของเธอมาทำสื่อการสอนไว้ด้วยค่ะ เยี่ยมไปเลย
เป็นยังไงบ้างคะ อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจเลย แม่ๆคนไหนบอกว่าไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ตอนไหนดี เรามาเริ่มด้วยกันน๊า
นักเรียนของแม่จิ๊บได้แก่ ลูกสาวคนโต เวียงพิงค์ 4 ขวบ และน้องภู 2 ขวบ
ลูกไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษจากที่อื่นมาก่อน
ใช้สื่ออะไร
แม่จิ๊บใช้สื่อการเรียนการสอน
- ชุด Easy Phonics kit ราคา 3900 ของแม่ตุ๊ก จากเพจ ปั้นลูกให้เก่งโฟนิกส์ by แม่ตุ๊กและน้องพลอย เป็นหลัก (เฉพาะชุดนี้ก็สามารถสอนโฟนิกส์ได้เหมือนแม่ตุ๊กสอนน้องพลอยเลยค่ะ)
- ตามเพจภาษาอังกฤษของครูมิกกี้ เพจนี้ Mickey Eduzones ค่ะ (มิกกี้เป็นครูภาษาอังกฤษที่แม่จิ๊บชื่นชมหลายอย่างค่ะ ทั้งเรื่องการสอนและ Mind set ด้านการศึกษา)
- สื่อเรียนรู้อื่นๆเช่นยูทูป เพจต่างๆเพิ่มเติม
- ชุด Jolly Phonics 7500 บาท ชุดนี้ซื้อมานานแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ให้ลูกได้เรียนจริงจัง มีปากกา ให้ฟังเสียง มีท่าทางอะไรให้ลูกๆทำตาม คิดว่าจะได้นำมาสอนพร้อมกันเลย
ใช้จาก 4 แหล่งนี้ จะมีรีวิวชุดอุปกรณ์ในตอนหน้าเรื่อยๆนะคะ คือเมื่อเรามีอุปกรณ์พร้อมแล้ว (พร้อมมาก ทีนี้เหลือแค่การลงมือสอนและเรียนรู้ไปด้วยกันกับลูกค่ะ)
วิธีการสอน เริ่มจากตรงไหน
แม่จิ๊บสอนโดยเริ่มทำตารางเรียนให้ลูกเพื่อให้เป็นกิจวัตรประจำวันที่เราจะได้คุ้นเคยกับโฟนิกส์ค่ะ จะใช้เวลาสอนโดยหลัก ทำทีละน้อย ทำทุกวันสม่ำเสมอและแทรกไปในชีวิตประจำวัน
- เริ่มสอนตามคู่มือของแม่ตุ๊ก เพจ ปั้นลูกให้เก่งโฟนิกส์ by แม่ตุ๊กและน้องพลอย เป็นหลัก
- ให้ลูกฟังเสียงตามปากกา Jolly Phonics เสริม (ในอนาคตคงได้ใช้เยอะขึ้น)
- สอนโดยผสานกับสื่อต่างๆเช่น Youtube เป็นต้น
- พยายามจัดสิ่งแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษ
แม่จิ๊บสอนหลังเลิกงานและวันหยุดค่ะ เน้นวิธีการ “ทำวันละน้อย แต่ทำทุกวันให้สม่ำเสมอ” และ “สอนจากหากิจกรรมเล่นสนุกๆ” จะมาอัพเดทพัฒนาการลูกให้ดูเรื่อยๆค่ะ คิดว่าเรามีแบบอย่างให้เห็นแล้ว เราต้องทำได้ สอนไปด้วยกันนะคะทุกคน
ปิดท้ายด้วยการอธิบายเป็นคลิปให้เห็นภาพที่นี่ค่ะ ว่าการที่แม่ตุ๊กเริ่มสอนน้องพลอยตอนสองขวบจนตอนนี้เก้าขวบ การอ่านของน้องพลอย ให้ดอกผลที่น่าชื่นใจขนาดไหน สุดท้าย ประโยชน์ของการเรียนตกอยู่ที่ลูกล้วนๆ แถมแม่ตุ๊กยังได้อาชีพใหม่ด้วย แม่จิ๊บเลยขอยกแม่ตุ๊กเป็น Role Model สอนลูกให้โตไปกับโฟนิกส์ค่ะ เดินตามรอยแม่ตุ๊ก ลูกเรียนรู้แบบสนุกแถมแม่ได้พัฒนาไปด้วยแน่นอน
ดูคลิปนี้ตั้งแต่นาทีที่ 28 เป็นต้นไปจะเป็นเรื่องโฟนิกส์ค่ะ
**follow us** เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ Instragram : yimwhanfamily เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com Youtube : Yimwhan Family อีเมลล์ : [email protected] Line Id : @yimwhanfamily