ปฐมวัยไดอารี่ EP.2 ไปยื่นคำขออนุญาตทำบ้านเรียนอนุบาลกันเถอะ
การทำ Home School ให้เด็กปฐมวัยในช่วงเวลานี้ เหมาะสมที่สุด
แม่ว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก ลงมือทำเลย แม่มักบอกคนที่กำลังกล้าๆกลัวๆแบบนี้เสมอ ขออย่างเดียว ให้มีคนดูแลเด็กที่บ้านด้วย เพราะเด็กปฐมวัยยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่กลัวอุบัติเหตุ กลัวการล่วงละเมิด (เอาจริงๆแม่ก็นอยด์ทุกอย่างน่ะแหล่ะ 55) เป็นวัยที่ต้องมีคนจัดการให้ แม่ขอป๊ะป๋ากะปู่ย่าช่วยดูแลเด็กๆช่วย เหมือนโควิดจะทำให้ทุกคนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “เรียนที่บ้านนี่ล่ะ ดีที่สึุด” ส่วนแม่ก็ทำงานประจำไป ทำหน้าที่ดูเรื่องกระบวนการต่าง ใช้เวลามาบริหารจัดการและคิดกิจกรรมให้เด็กๆ
น้องภูอายุครบ 3 ขวบแล้ว ได้เวลาจดทะเบียนเป็นเด็กนักเรียนอนุบาล(ที่บ้าน) แม่วางแผนมาอย่างดีแล้ว
หลังจากที่แม่ไปยื่นความประสงค์ทำบ้านเรียนร่วมกับเขตเมื่อ 2 วีคที่แล้ว ก็ได้รับแจ้งจากเขตว่า
ขอให้นำเอกสารและแผนการศึกษาของลูก พร้อมรูปน้องภูไปยื่นขออนุญาตกับเขตได้เลย
ใช่แล้ว เราต้องยื่น 1. ความประสงค์ทำบ้านเรียนร่วมกับเขต ก่อน แล้วจึงยื่น 2. แบบขออนุญาตทำบ้านเรียน
เมื่อข้อ 1 ผ่านไป แม่ก็ได้เวลาเดินหน้าไปที่ข้อ 2 ต่อ
ความจริงแล้วการทำบ้านเรียนก็มีขั้นตอนไม่มากมายอะไร
แต่ด้วยความที่พ่อแม่ต้องมาหาข้อมูลเอง จึงเป็นเรื่องยากลำบากสักหน่อยสำหรับพ่อแม่มือใหม่โฮมสคูล อุปสรรคใหญ่คงอยู่ที่แนวการปฏิบัติของเขตพื้นที่การศึกษาของแต่ละที่อาจมีความไม่ชัดเจน รวมถึง Mind set การศึกษาของเราต้องยอมเปิดรับอะไรใหม่ๆ ไม่ยึดติดอะไรเดิมๆ ซึ่งแม่ว่าต้องใช้เวลา การเรียนรู้เพื่อที่จะเปลี่ยนมุมมอง ลอยตัวเหนือการแข่งขันบ้าง พยายามเลิกคาดหวัง หยุดเปรียบเทียบและปล่อยให้การเรียนรู้เป็นไปตามช่วงวัยด้วยความสนุก
แม่อยากให้การใช้ชีวิต เป็น Lifelong learning ก็เรียนรู้กันไป ไม่ต้องยึดหลักการอะไรมาก แม่ถ่ายรูปให้น้องภูที่บ้านแบบง่ายๆ ใช้กล้องใช้ฉากในสตูดิโอเราที่มีอยู่แล้ว ส่งภาพให้ร้านอัดให้ ก็ได้ภาพมาติดรูปคำขออนุญาตทั้ง 6 เล่มสบายๆ
พี่มายด์ไดคัทรูปน้องภูใส่ปกในแผนการศึกษา แม่รีเควสเลยขอทำขอบสีฟ้าให้หน่อยนะ คือชีวิตมีลูกอนุบาลต้องมุ้งมิ๊งทุกอย่าง ขออภัยแม่ต้องการความคิ้วววว
แม่เตรียมเอกสาร รูป และแผนไปยื่นเขตหัวฟูเลย ในยุคที่โควิดระบาดแบบนี้ แม่ดีใจมากที่ได้มารู้จักกับ Home School อย่างน้อยความเสี่ยงเรื่องป่วยของลูกก็น้อยลงแน่ๆ อยู่บ้านไปก่อนนะลูก
แม่ลองถามความเห็นเจ้าตัวว่าอยากได้รูปไหนไปอัด เจ้าตัวก็บอกว่า อยากได้รูปที่น้องภูทำหน้าเบื่อ แล้วก็ขำ (คือคงคิดว่าแม่จะตลกด้วย) แต่เดี๋ยวเขตจะคิดว่าแม่ทำบ้านเรียนแล้วลูกน่าสงสารมาก ทำหน้าห่อเหี่ยว แม่ว่าแม่เลือกดีกว่า 555
วัย 3 ขวบของเด็กน้อย ช่างเป็นวัยที่สร้างความขำให้ครอบครัวจริงๆ วันนั้นถามว่า What do you eat? ก็ตอบมาว่า I eat จอผักกาด ถามว่าอะไรกัดคอ ก็ตอบว่า A มดส้ม bite me. ถามว่าขวดน้ำหนูทำไมมาอยู่ตรงนี้ ก็ตอบว่า I ม่ะฮู้ แม่ก็นะ ขำอย่างเดียว อ้อ ช่วงนี้ชอบอวดด้วย ต่อเลโก้หน่อยนี่รีบไปเรียกมาดู Mommy see!! ด้วยสีหน้าอันแสนจะภูมิใจ แม่ก็ว้าวอย่างเดียว คุณหมอประเสริฐบอกให้แม่ว้าวเยอะๆ สร้าง self esteem แม่ก็ต้องงัดแอคติ้งมาแสดงให้สมบทบาท โตมาถ้าได้อ่านโปรดรู้ด้วย ว่าแม่กำลังส่งเสริมพัฒนาการลูกเต็มที่เลยนะเจ้าภู 555
เอาล่ะ แม่เอาเอกสารไปยื่นเขต ปกติเจ้าตัวเค้าต้องไปด้วย แต่วันนี้แม่ไปกับเลขา ก็โควิดระบาดทั่วโลก แม่ก็กลัวสิ….ขอบคุณพี่มายด์มากนะ พี่มายด์ทำให้ชีวิตแม่ลื่นไหลไม่สะดุด ทำงานได้ Productive มากๆ การทำงานเหนื่อยๆแต่มีผู้ช่วยนี่มันดีงามจริงๆ
ช่วงนี้ช่างเป็นวีคที่แม่ยุ่งมากถึงมากที่สุด มีอะไรให้ทำเยอะแยะ แต่เรื่องเรียนของเด็กๆก็เป็นสิ่งที่แม่ให้ความสำคัญมากๆ การทำ HomeSchool นั้น แม่แบ่งความสำคัญให้เพียง 20% งานหลักแม่อีก 40% งานที่บริษัท 20% ชีวิตส่วนตัวและความฝันแม่อีก 20% พอการเรียนลูกอยู่ตัวแม่ก็เฟดตัวเองออกมาใช้ชีวิตส่วนอื่นแบบไม่กังวลมากนัก แต่เป็นชีวิตช่วงที่เรียกได้ว่าตื่นเช้านอนดึกและขี้งกเวลาสุดๆ
แม่ให้ความสำคัญกับการศึกษา ไม่มากไปกว่าชีวิตส่วนตัวหรืองานอื่นๆของตัวเอง นัยหนึ่งก็เพื่อไม่ให้ตัวเองไปจมจ่อมกับการเรียนรู้ลูกเกินไปจนลืมหันไปใส่ใจสิ่งอื่นๆ นัยหนึ่งเพื่อเตือนตัวเองว่า ชีวิต ….. มีอะไรมากกว่าไปยึดติดกับการทำ Homeschool หรือการส่งลูกไปโรงเรียน หลงไหลในอะไรสักอย่างเป็นเรื่องดี แต่ควรเฟดตัวเองออกมามองเรื่องอื่นๆของชีวิตด้วย (ตอนนี้ตัวเองอยู่ตัวแล้ว กำลังทำโปรเจคช่วยบ้านอื่นๆช่วงโควิด ขอไปตีลังกาคิดกิจกรรมสนุกๆก่อนนะ)
อืมมมม….อยากเขียนแค่นี้ล่ะ จบมันดื้อๆเลย
แม่จิ๊บ 7 พ.ค.63
**follow us**
เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ
Instragram : yimwhanfamily
เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com
Youtube : Yimwhan Family
อีเมลล์ : [email protected]
Line Id ขอไฟล์ไทม์ไลน์ Home School : @yimwhanfamily
