สวัสดีค่ะทุกคน ได้เวลามาเล่าเรื่องการดำเนินการทำ Home School ให้ลูกในวัยอนุบาลแล้วค่ะ หลังจากที่เรายื่นเอกสาร 2 อย่างนี้ไปที่เขตพื้นที่การศึกษา1.แบบแสดงความประสงค์ขอจัดการศึกษาและจัดทำแผนการศึกษาโดยครอบครัว2.แผนการจัดการศึกษาโดยครอบครัว
ทำไมแม่จิ๊บจึงแนะนำว่า...ควรทำโฮมสคูลระดับปฐมวัย 0-6 ขวบ??สวัสดีค่ะ วันนี้อยากแชร์หัวข้อการทำโฮมสคูลในระดับปฐมวัยค่ะ ปฐมวัย 0-6 ขวบ คือช่วงก่อนการศึกษาภาคบังคับนั่นเองค่ะ ทำไมแม่จิ๊บถึงคิดว่า "ปฐมวัย" เหมาะแก่การทำโฮมสคูลที่สุดปล.บทความนี้ไม่มีวิชาการ แม่เขียนจากทัศนคติส่วนตัวและประสบการณ์ล้วนๆนะคะ
อยากพาลูกไปทำกิจกรรมในทุ่งนากว้างๆ อยากให้ลูกรู้จักอยู่กับธรรมชาติ สนุกกับกิจกรรมที่ เห็นด้วยตา จับด้วยมือ สไลด์ด้วยก้น ไหมคะ?ถ้าอยากก็ตามพวกเรามาเลยค่ะ เราจะพาไปที่นี่ "จินเจอร์ฟาร์ม เชียงใหม่"
หลายบ้านคงกำลังไม่รู้จะเริ่มยังไงกับการเขียนแผนการศึกษาโดยครอบครัวใช่ไหมคะ อยากจะบอกว่า "กังวลเหมือนกันค่ะ" ที่กังวลเพราะว่าเราไม่เคยเขียนไงคะ เรานี่นะจะเป็นโรงเรียนให้ลูก อื้อหือแลดูเป็นฮีโร่มากเรา แผนก็ไม่เคยเขียน อ่านของพ่อจิวกับน้องสีฝุ่นเป็นแนวทางแล้วเราก็ลงมือค่ะ (พ่อจิวบอกว่าเขียนแผนนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ให้ความสำคัญตอนเก็บร่องรอยการเรียนรู้และประเมินมากกว่า)
เพราะตอนนี้เป็น Step 4 ที่แม่จิ๊บทำหลังจากเราเข้าใจอะไรๆมาเป็น Step แล้วค่ะ แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นโฮมสคูลลูก ก็ควรรู้เรื่องโฮมสคูลให้ถ่องแท้ ค่อยๆเรียนรู้ไป ทั้งพระราชบัญญัติการศึกษา กฎกระทรวง การจัดการศึกษาโดยบ้านเรียน เอกสารที่เราต้องเตรียม เราไม่เคยพบเจ้าหน้าที่เขตมาก่อน แต่เราทราบแล้วว่าต้องไปพบใครเพราะเราติดต่อปรึกษาตั้งแต่จะเริ่มเขียนแผนแล้วค่ะ พอเราปรึกษา เจ้าหน้าที่ก็ส่งเอกสารมาให้เรา 4 อย่าง คือ
ความตั้งใจในการเขียนเรื่อง Home School คือ "อยากให้คนที่เพิ่งเริ่มต้นเดินไปด้วยกัน" และ "อยากเก็บร่องรอยการเรียนรู้ของเราและลูกค่ะ" และเราเริ่มจากอนุบาลคือเริ่มจากไม่รู้อะไร ไม่รู้เรื่องบ้านเรียนมาก่อน เกิดคำถามมากมาย เราเริ่มแบบไหน ดูอะไรก่อน จะรวบรวมไว้ในนี้ค่ะ แล้วทำเป็น Step ไป ซึ่งก็ไม่ใช่สเต็ปอะไรที่เป็นทางการ แต่เป็น "step ของบ้านเราเอง"
เวลาเราเห็นรุ่นพี่คุยเรื่องโฮมสคูล เห็นเด็กๆโฮมสคูลโตกันมาแบบเรียนที่บ้านเราก็จะสงสัย เอ ถ้าเราอยากทำบ้าง เราต้องรู้เรื่องอะไร? ที่บ้านเด็กๆเหล่านั้นจัดการศึกษายังไงนะ แล้วเราก็จะต้องไปค้นข้อมูลอะไรบ้าง!!
ร้านนี้ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ค่ะ มีรูปประกอบเล็กน้อยให้พอคิดถึง (อาหารที่ร้านเราไม่ใส่ผงชูรส แม่จิ๊บชอบกินกระเพราไข่เยี่ยวม้าที่ร้านที่ซู๊ดดดด กับน้ำสลัดโฮมเมดปั่นเองอร่อยมากๆ ) แต่ตอนนี้ปิดไปรอฟื้นคืนชีพอยู่ ถ้ามีสถานที่เหมาะๆก็ยังมีความฝันที่อยากเปิดร้านอาหาร (เน้นขายเมนูที่ชอบไว้กินเองตลอดเวลา 555)
ตอนเด็ก เรามักถูกบอกว่า "ให้เรียนเก่งๆ" การได้เกรดสูงๆ หรือเรียนได้อันดับต้นๆของห้องก็จะเป็นความภาคภูมิใจ การแข่งขันทางวิชาการมีให้เห็นตามสนามสอบมากมาย เราถูกฝังหัวมาว่าคนที่เก่งวิทย์คณิตนั่นคือสุดยอดของหัวกะทิ อนาคตต้องมีอาชีพดีๆรออยู่แน่นอน ส่วนใครที่เรียนได้อันดับท้ายๆ เกรดน้อยๆ ก็จะถูกตราหน้าว่าหัวขี้เลื่อย เรียนต่อก็เปลืองตังค์ ออกมาช่วยพ่อแม่ทำมาหากินดีกว่า
สวัสดีค่ะทุกๆบ้าน วันนี้แม่จิ๊บกับ Yimwhan Family จะพาไปเที่ยวร้านอาหารร้านหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใน อ.แม่ริม เป็นร้านที่เหมาะกับครอบครัวที่สุดค่ะ มีอาหารสำหรับเด็ก มี play ground มีสัตว์ต่างๆให้เดินชม ให้เล่นด้วย พื้นที่กว้างขวางและเขียวร่มรื่น นั่นคือร้าน Wild Felice นั่นเองค่ะ (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น Two sons coffee ค่ะ)