เคยตั้งคำถามไหมคะว่า การมีลูกคือการลงทุนแบบหนึ่ง แต่ผลตอบแทนจะเป็นอะไร และวัดยังไงกันนะ แล้วลงทุนในวัยไหน จึงจะคุ้มที่สุด??
แม่จิ๊บได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุม “เรื่องแนวทางในการพัฒนาการศึกษาเด็กปฐมวัย” ของจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 ที่โรงแรมอโมร่าท่าแพ เชียงใหม่ค่ะ เป็นการรวมตัวกันของผู้จัดการศึกษา เจ้าของโรงเรียน ครู หรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องด้านปฐมวัย ได้เรื่องดีๆมาขบคิด อยากจะเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ ขอบคุณจังหวัดเชียงใหม่ ที่เห็นความสำคัญของบ้านเรียนและการศึกษาทางเลือก เชิญเราเข้าไปฟัง ทำให้รู้นโยบายและการพัฒนาเด็กๆหลายๆอย่างที่ต้องเดินไปด้วยกัน
วิทยากรท่านนี้กล่าวถึงการศึกษาไว้ได้น่าสนใจมากค่ะ การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยควรสนับสนุนให้เรียนรู้อย่างมีความสุข ว้าววว เทรนด์การศึกษาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ระดับจังหวัดก็ยกเรื่องนี้มาคุยกันค่ะ
รู้สึกไหมคะว่า ถ้าเราไม่ได้มาเกี่ยวข้องเรื่องของเด็ก เช่น ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับการศึกษา ไม่มีลูกไม่มีหลาน เราก็คงไม่ได้มาสนใจเรื่องของปฐมวัยสักเท่าไหร่ แม่จิ๊บอยากลองชวนเพื่อนๆมาคิดไปด้วยอยากให้เราย้อนกลับไปคิดค่ะว่า “ตอนเราอยู่ในปฐมวัย เราเรียนรู้อย่างไร ได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพตามวัยหรือไม่ เราจะโตมาแบบทุกวันนี้ไหม เราจะเป็นประชากรแบบไหนกันนะ?”
มาจ้า มาย้อนเวลาคุยกันหน่อย………
ปฐมวัยคือ เด็กแรกเกิดจนถึงก่อนเข้าโรงเรียนในระดับประถม (0-6 ขวบ พอเด็ก 6 ขวบย่าง 7 ก็จะเข้าประถม 1 นะคะ)
ศ.เจมส์ เฮกแมน (ได้รับรางวัลโนเบลด้านเศรษฐศาสตร์) ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “ก้าวแรกที่เท่าเทียม” ได้พูดถึงโอกาสตั้งแต่ปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาทองของทักษะ 4 ด้านของเด็กปฐมวัย ได้กล่าวไว้ว่า การลงทุนช่วงปฐมวัย คือการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนคุ้มที่สุด สูงที่สุดในทางเศรษฐศาสตร์
(ขอบคุณข้อมูลจาก TDRI ซึ่ง ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ได้วิเคราะห์ออกอากาศทางไทยพีบีเอส เมื่อ 15 พ.ค. 2560 ท่านไหนอยากดูแบบเต็มๆแม่จิ๊บแปะลิงค์ให้ด้านล่างบทความนะคะ)
สาเหตุที่ศาสตราจารย์สรุปไว้แบบนั้น นั่นเพราะถ้าพิจารณาจากสมการพัฒนาคนแล้วเราจะเห็นว่าการลงทุนกับปฐมวัยคือการลงทุนในระยะยาว และได้กำไรอย่างยั่งยืนคืนสังคม ได้ประชากรที่มีคุณภาพ
ทีนี้ในวันนั้นที่แม่จิ๊บไปประชุม ได้เจอวิทยากรคือ คุณศุภัคพิมล ปาแปง จากสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็ก ท่านนี้เชี่ยวชาญเรื่อง IQ หรือ EQ และ EF ด้วยนะคะ ท่านเล่าถึงการพัฒนาสมองของเด็กอายุ 0-7 ขวบ ให้เราฟัง น่าสนใจดีค่ะ (จริงๆแม่จิ๊บรู้จักวิทยากรท่านนี้และเคยได้ร่วมงานกันด้านการจัดรายการวิทยุด้วยนะคะ แต่วันนั้นไม่ได้เข้าไปทักทายกันเลย เพราะแม่จิ๊บเพิ่งหายป่วย เบลอมากค่ะ)
วิทยากรบรรยายหลายเรื่องอยู่นะคะ แต่แม่จิ๊บหยิบประเด็นมาฝากทุกคนคือตรงนี้ค่ะ คัดมาแล้วว่าเป็นประโยชน์แน่ๆ และมันสอดคล้องกับการพูดถึงเรื่องการลงทุนข้างบนเลยค่ะ นั่นคือเรื่องของทักษะต่างๆที่มีการพัฒนาทางด้านสมองสูงปรี๊ดในช่วง 0-3 ขวบค่ะทุกคน เห็นในกราฟไหมว่าวัยก่อนวัยเรียน 0-3 ขวบนี่คือสำคัญมากๆ และพอเด็กโตขึ้นมันจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ เราถึงได้เรียกว่า “ช่วงเวลาทองของปฐมวัย” ไงคะ
คำถาม แล้ว 0-3 ขวบ หรือไปจนถึง 7 ขวบนั้น เด็กไทย เราทำอะไรอยู่?
เด็กไทยได้รับการดูแลที่จะช่วยพัฒนาหรือส่งเสริมในช่วงเวลาทองนี้หรือไม่
รัฐได้ให้ความสำคัญกับเด็กๆปฐมวัยเพียงพอแล้วหรือยัง
เราหวังกันแต่คุณภาพของปลายน้ำ (ประชากรที่ดี มีคุณภาพ) ในขณะที่เราไม่สร้างต้นน้ำ(ปฐมวัย)ที่ยั่งยืนหรือเปล่า
เราอยากได้ต้นแอปเปิ้ลที่สมบูรณ์คุณภาพดี แต่เราได้บำรุงราก รดน้ำพรวนดินเพียงพอไหม?
เราอยากได้ประชากรที่มีคุณภาพ มีระเบียบวินัย มีจริยธรรม เราได้ปลูกฝังตั้งแต่ “ปฐมวัย” หรือไม่
แม่จิ๊บไม่ตอบนะคะ แต่อยากให้ทุกคนดูการลงทุนของรัฐในข้อมูลของ TDRI ตรงนี้ค่ะ
ดูแล้วต้องอุทาน อุต่ะ พี่บัวลอย อนาคตของประชากรไทย อนาคตของชาติ “ปฐมวัย” ที่ ศาสตราจารย์เฮกแมนกล่าวว่าเป็นช่วงการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด แล้วเหตุใดประเทศเราถึงได้ให้ความสำคัญต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้
เป็นหัวข้อที่น่าเจ็บปวดนะคะ ในประเทศที่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่นี้ มีสวัสดิการรวมไปถึงมาตรฐานการดูแลเด็กปฐมวัยที่ต่ำมาก แม่จิ๊บอยากให้นายกหันมาลงทุนกับเด็กปฐมวัยมากๆ จัดห้องสมุด จัดแหล่งเรียนรู้ ให้สวัสดิการพ่อแม่ ส่งเสริมครูพี่เลี้ยงดีๆ ประเทศเราแม้แต่ห้องสมุดสำหรับเด็กยังหาได้น้อยมาก ที่เล่าเรื่องนี้เพราะจะบอกว่า ท้ายสุดพ่อแม่ที่ทำ Home School จึงต้องดูแลลูกให้พัฒนาไป 4 ด้านอย่างดีที่สุด จัดสถานที่เรียนรู้ให้ลูก และจัดตารางการเรียนรู้ตามความเหมาะสมกับวิถีของท่าน ค้นหาความรู้ใหม่ๆ เราอยากเปลี่ยนการเรียนรู้ของลูก ตัวเราเองก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้ไปด้วย
สุดท้ายท้ายสุด ฝากเรื่องการอ่านอีกแล้ว…ตามสไตล์แม่จิ๊บผู้คลั่งไคล้หนังสือเด็ก
Library at Home เริ่มเลยค่ะ ตั้งแต่วันนี้ เพราะเด็กๆเหล่านั้น “คือมหัศจรรย์ปฐมวัย” นั่นเอง
อันนี้เป็น Live ที่แม่จิ๊บคุยเรื่องนี้ค่ะ (เสื้อผ้าหน้าผมเต็มขนาดนี้คือเพิ่งไปทำงานอีเว้นท์หนึ่งมานะคะ)
เพื่อนๆดูคลิป 2 คลิปนี้นะคะ แล้วจะรู้ว่าทำไม ในทางเศรษฐศาสตร์จึงกล่าวว่า “ช่วงปฐมวัย เป็นช่วงลงทุนที่คุ้มที่สุด โดยเฉพาะ 0-3 ขวบ”
คิดยกกำลังสอง: รอให้ถึงอนุบาล…ก็สายเสียแล้ว
ถ้าอยากรู้ว่าไทย สิงคโปร์กับฟินแลนด์มีสวัสดิการอย่างไร เกี่ยวกับพ่อแม่และการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ดูคลิปนี้ค่ะ
คิดกำลังสอง:พัฒนาเด็กปฐมวัย…ให้ครบวงจร
คิดยกกำลังสอง: เตรียมตัวแต่ปฐมวัย…โตไปจะได้เรียนดี
***ขอบคุณข้อมูลประกอบบทความจากรายการ คิดยกกำลัง2 ทาง TPBS
**follow us** เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ Instragram : yimwhanfamily เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com Youtube : Yimwhan Family อีเมลล์ : [email protected] Line Id : @yimwhanfamily