ค้นหา
Technology Disruption - AI - Robot - University

คุณคิดว่า ในอีกสัก 100 ปี ……โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง? เทคโนโลยี การศึกษา สังคมและวัฒนธรรม รวมไปถึงภัยออนไลน์ จะเปลี่ยนไปแบบไหน? แล้วเราจะอยู่กันยังไง

ปัจจุบันกระแสเรื่อง Technology Disruption กำลังมาแรงมาก และเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด เพียงแค่ 5-10 ปีข้างหน้าเราก็คงได้อยู่ในความเปลี่ยนแปลงมากมาย

แม่จิ๊บเป็นแม่ที่เกิดใน เจนเนอเรชั่น Y (คนเกิดปี 2523-2540) กลุ่มที่เกิดมาพร้อมความเปลี่ยนแปลง (เป็นเจนที่ได้เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างเป็นขั้นตอน) และแม่จิ๊บมีลูกที่เกิดในเจนเนอเรชั่นอัลฟ่าอีก 2 คน (เด็กที่เกิดปี 2558 – 2568) เจนที่เกิดมาก็พบกับโลกดิจิตอล (ว่ากันว่าเด็กๆเจนนี้จะฉลาดที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์)

เพื่อตอบคำถามที่ตั้งไว้ แม่จิ๊บจึงเขียนบทความแห่งปีขึ้นมา เป็นบทความที่มีข้อมูลหลายส่วนทั้งเรื่องการศึกษาและสื่อ วิทยากรเยอะและหลากหลายมาก ซึ่งเป็นความโชคดีของงานแม่จิ๊บที่สุดที่ได้ทำงานที่มีโอกาสเปิดหูเปิดตา บทความนี้จึงยาว ภาพเยอะมาก ถ้าพูดถึงค่าเขียนค่าทำสื่อชุดนี้น่าจะขาดทุนยับเยิน (ฮาาา) แต่ถ้าถามถึงประโยชน์ต่อคนอื่น “กำไรท่วมท้นแน่นอน แม่คอนเฟิร์ม แม่ภูมิใจนำเสนอ”และเขียนในเว็บไซต์แม่จิ๊บเอง อยากเขียนอยากแชร์อะไรจงทำออกมาไม่ต้องกลัวพื้นที่ไม่พอ 55 อย่าลืมเซฟเก็บไว้นะคะ

อันดับแรกแม่จิ๊บจะพาไปชมสื่อในงานครบรอบ 100 ปีของฟินแลนด์ ประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาดีในลำดับต้นๆของโลก “Finland Defining the Next 100 Years” อีก 100 ปีข้างหน้าของฟินแลนด์จะเป็นเช่นไร เชิญชมค่ะ

(Cr: สื่อนี้แม่จิ๊บได้ชมจากการบรรยายของคุณสุภิญญา กลางณรงค์ ในงานสัมมนา “ความเข้มแข็งภาคพลเมืองกับการรับมือข้อมูลลวงและด้านมืดออนไลน์” ซึ่งจัดที่เชียงใหม่ เมื่อ 2-3 พ.ย. 2562 ณ โรงแรม Syn Hotel)

ดูแล้วว้าวเลยใช่ไหมคะ ทุกอย่างเต็มไปด้วยเทคโนโลยีและ Sensor การใช้ชีวิตแบบ 5G ขนาดตั้งครรภ์ยังรู้ข้อมูลลูกที่อยู่ในท้องไปจนถึงระดับจีโนม รวมไปถึงการได้ทำงานและเติบโตใช้ชีวิตไปกับ AI (แต่ตอนจบเฉลยว่าไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปอย่างไร สิ่งแวดล้อมและความรักความสัมพันธ์แบบมนุษย์ก็ยังคงอยู่)

นั่นคืออีก 100 ปีข้างหน้าที่คาดการณ์ไว้ แต่ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแบบก้าวกระโดด บทความนี้จึงจะเล่าถึงการศึกษาที่เราต้องปรับตัวโดยเฉพาะค่ะ ไม่เพียงแค่แม่ที่มีลูกในระดับอนุบาลแบบแม่จิ๊บเท่านั้น แต่การถูก Technology Disruption ส่งผลอย่างชัดเจนแล้ว “ในระดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก” 

Technology Disruption กับการปรับตัวของมหาวิทยาลัยไทย (และมหาวิทยาลัยโลก)

Technology Disruption - AI - Robot

 “มหาวิทยาลัย” ได้เปลี่ยนร่มสังกัด จาก “กระทรวงศึกษาธิการ” ไปเป็น “กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม”  หรือที่เรียกสั้นๆว่า “อว.”

**หมายเหตุ ยุบกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) มารวมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.), สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กลายเป็นกระทรวงใหม่คือ “อว” เริ่มใช้เมื่อ 2 พ.ค. 2562

Technology Disruption - AI - Robot

เป็นกระทรวงที่มาพร้อมการ Digital Transformation และ Technology Disruption ที่แท้ทรู (ยุคนักศึกษาลดฮวบฮาบพอดี) ซึ่ง รศ.นพ.สรนิต  ศิลธรรม ปลัดกระทรวง อว. ท่านได้บรรยายถึงภารกิจที่สำคัญของกระทรวงและข้อมูลทั่วไป แต่สิ่งที่เป็นประเด็นทั่วโลกและเกิดการเปลี่ยนแปลง(ทำลายล้าง) อย่างรวดเร็ว “คือนโยบายการศึกษาในศตวรรษที่ 21”

Cr: ท่านบรรยายในการทบทวนนโยบายของมหาวิทยาลัยแม่โจ้เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2562 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ เชียงใหม่

Technology Disruption - AI - Robot

ท่านเล่าว่าการศึกษา (Education) แท้จริงแล้วไม่ใช่การใส่ข้อมูลให้เด็กฝ่ายเดียว แต่คือการดึงศักยภาพและความสามารถของเด็กออกมา  (คิดถึงบทความพหุปัญญาของ ศ.การ์ดเนอร์เลย แม่จิ๊บเคยเขียนไว้ ไปตามอ่านที่นี่ค่ะ >> พหุปัญญาอัจฉริยะ 9 ด้าน….ศ.การ์ดเนอร์ จากฮาร์วาด เด็กไม่เก่งคำนวณ ไม่เก่งภาษา ไม่ได้หมายความว่าโง่ |Yimwhan Family|

 

จุดที่น่าสนใจคือ การศึกษาในปัจจุบัน มีความต้องการเพื่อปริญญาเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น แต่การศึกษาเพื่อประกอบอาชีพ (30 ล้านคน) และเพื่อเพิ่มพูนความรู้ช่วงสูงวัย(10ล้านคน) มหาวิทยาลัยจึงต้องปรับตัว เพราะกลุ่มนักศึกษาลดลงอย่างมาก แถมมีที่ให้เลือกอีกเพียบ การยุบของหลักสูตรหรือถึงขั้นปิดมหาวิทยาลัยจึงเป็นผลกระทบที่ตามมา

ศาสตราจารย์ เคลย์ตัน คริสเตนเซน (Clayton Christensen) อาจารย์และนักการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าของทฤษฎี disruptive innovation ได้เขียนบทความลงในหนังสือ The Innovative University ถึงข้อมูลที่มหาวิทยาลัยในอเมริกาปิดไปแล้ว 500 แห่งจากทั้งหมด 4500 แห่ง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

ผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นทั่วโลก แล้วมหาวิทยาลัยที่ยังเป็นสถานศึกษาแบบเดิมๆจะอยู่รอดได้อย่างไร

แม่จิ๊บขอให้จำคำว่าLifelong learning การเรียนรู้ตลอดชีวิต” ที่อยู่ในรูปนี้ด้วยนะคะ (เป็นคีย์เวิร์ดที่สำคัญมาก)

Technology Disruption - AI - Robot

เรามาดูข้อมูล Fact ที่น่าสนใจคือ “นักศึกษาลดลงทุกปี” ทั้งจากหลายสาเหตุปัจจัย เช่นการเกิดใหม่ที่ลดลง คนมีทางเลือกเยอะขึ้น  จริงๆแล้วมีสัญญาณลดลงทุกปี แต่ดูเหมือนวิกฤติมหาวิทยาลัยไทยจะเริ่มเห็นภาพชัดขึ้นช่วงปี 2559 – 2561 นี่เอง

Technology Disruption - AI - Robot

 

และถ้าถามว่านักศึกษาเหล่านั้น เลือกเรียนอะไรกันบ้าง สายสังคมดูเหมือนจะยังสูงสุดเช่นเคย

Technology Disruption - AI - Robot

มหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้น“เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต” แต่….ในทางปฏิบัติ มหาวิทยาลัยของท่านขยับและปรับตัวให้เป็นแหล่งเรียนรู้นี้ให้ทันโลกและเรียนรู้ได้ตลอดชีวิตตอบโจทย์ความต้องการในยุค Technology Disruption เพื่อความอยู่รอดแล้วหรือยัง และบุคลากรในองค์กรของท่านได้เข้าใจและตระหนักเรื่องนี้กันหรือยัง……(นักศึกษาน้อยลง = มีผลกับหน้าที่การงาน)

Technology Disruption - AI - Robot

จาก Lifelong learning เริ่มมีคำว่า “Non-Degree และ Skill future” ดังที่ ศาสตราจารย์ ดร.ศันสนีย์ ไชยโรจน์ ท่านได้บรรยายเรื่องการวิจัย งบวิจัยต่างๆของกระทรวงรวมไปถึง BCG Model และปิดท้ายด้วย “การปรับตัวของหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยต้องให้ความสำคัญ” (เปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับความต้องการของโลกที่เปลี่ยนไป)

Technology Disruption - AI - Robot

ฝั่งสถาบันการศึกษาเอกชน ก็ปรับตัวเช่นเดียวกัน ซึ่ง ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุมได้เล่าการปรับตัวของมหาวิทยาลัยถึงการจัดกลุ่มคณะใหม่ เพื่อรองรับการหลอมรวมกัน การจับมือกับภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น (ปล.ท่านเป็นอธิการที่สวยและเสียงเพราะมากค่ะ ฟังเพลินสุดๆ)

Technology Disruption - AI - Robot

ขออนุญาตนำ Power Point มาเป็นตัวอย่างให้ชมนะคะ (PP เผยแพร่สาธารณะค่ะ แม่จิ๊บตัดบางส่วนมาค่ะ) จะเห็นว่าภาคเอกชนปรับตัวเร็ว ชัดเจน และมี Road Map ที่น่าจะทำได้เร็วกว่าภาครัฐ

Technology Disruption - AI - Robot

การจัดกลุ่มคณะต่างๆ การถูกยุบคณะ รวมไปถึงต้องยุบสถาบันการศึกษา ฟังแล้วเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคนทำงานมาหลายปี หลายสิบปี เพราะคำว่ามั่นคง กำลังถูกสั่นคลอน ไม่ใช่การปรับตัวของหัวเรือที่ชื่อว่ามหาวิทยาลัยเท่านั้น ฟันเฟืองเล็กๆอย่างบุคลากรก็ต้องปรับตัวโดยเร็ว เพราะผลกระทบคงจะเกิดขึ้นอีกในไม่กี่ปีที่จะถึงนี้ 

Technology Disruption - AI - Robot

Technology Disruption - AI - Robot

สุดท้ายอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุมยังกล่าวว่า เมื่อก่อนเราอาจเขียนแผนหลักสูตรกัน 5 ปี 10 ปี แต่สำหรับตอนนี้ เราไม่มีแผนระยะยาว มีแต่แผนระยะสั้น 3 ปี เพราะเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นเร็วมาก “และการเปลี่ยนแปลงคือการพัฒนา” การเข้าใจและปรับตัว คิดใหม่ให้ทันโลก จะทำให้มหาวิทยาลัยอยู่รอดได้

Technology Disruption - AI - Robot

“สถาบันการศึกษาต้องปรับตัวให้ทัน” คุณนพปฎล เดชอุดม ประธานผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรเครือเจริญโภคภัณพ์ (ซีพี) ได้เล่าเรื่องทักษะอาชีพที่มาแรงในศตวรรษที่ 21 ให้ฟังค่ะ ซึ่งมหาวิทยาลัยได้เตรียมพร้อมสำหรับการสร้างคนเพื่อตอบโจทย์ตลาดหรือยัง และย้ำว่าการเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรเดินไปพร้อมความยั่งยืนขององค์กรด้วย

Technology Disruption - AI - Robot

“การศึกษาออนไลน์” จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง การทำ MOOC หรือ Massive Open Online Courses กันแทบทุกมหาวิทยาลัย การเรียนออนไลน์ เรียนเฉพาะคอร์สที่สนใจ เรียนที่ไหนก็ได้ คือเทรนด์และทางรอดของมหาวิทยาลัยในยุคนี้ ซึ่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนามหาวิทยาลัยดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่านกล่าวอย่างน่าสนใจว่า การ Digital Transformation ที่กำลังเกิดขึ้น มาพร้อมการปรับเปลี่ยนหลายๆอย่างทั้งเทคโนโลยี โมเดลธุรกิจหรือแม้แต่กระบวนการต่างๆซึ่งจะก่อให้เกิดการแข่งขันและประสบการณ์ใหม่ๆอีกมากมาย

Technology Disruption - AI - Robot

ถ้าคุณอยากเรียนมหาวิทยาลัยดังๆ ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องสอบเข้า ไม่ต้องแข่งขัน โลกการศึกษาในศตวรรษที่ 21 กำลังจะจัดให้คุณ และจะเกิดอะไรขึ้นกับมหาวิทยาลัยในไทย เมื่อคู่แข่งขันของคุณคือมหาวิทยาลัยในระดับโลก

Technology Disruption - AI - Robot

ยังไม่พอแค่นั้นทักษะและสาขาที่คุณเปิด เคยเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ปัจจุบันกำลังถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์ และอนาคต AI เหล่านั้น จะมาเดินสวนกับคุณ ทำงานกับคุณ ใช้ชีวิตร่วมโลกใบเดียวกับคุณ และมาพร้อมการต่อจิ๊กซอว์ชิ้นที่มีประสิทธิภาพ ทดแทนทักษะที่มนุษย์อ่อนด้อยด้วย AI ที่แม่นยำกว่า แล้วทักษะไหนล่ะ ที่จะพาให้มนุษย์อยู่รอดได้……

ใช่ค่ะ สาขาที่มีความ “Creative”

Technology Disruption - AI - Robot

ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณนายแพทย์อุดม คชินทร สมาชิกวุฒิสภา ให้ข้อคิดในการปรับตัวของมหาวิทยาลัยในยุคนี้ ความรู้ที่เราเรียนรู้มาจะเริ่มหมดอายุ เพราะเทคโนโลยีใหม่ๆจะพัฒนาและค้นพบองค์ความรู้ใหม่ๆเสมอ เด็กๆในเจเนอชันแอลฟ่าจะรู้ทุกอย่างเพียงปลายนิ้ว ซึ่งถ้าอาจารย์มหาวิทยาลัยไม่ปรับตัว การจะไปสอนเด็กกลุ่มนี้จึงอาจไม่ได้รับความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้การสอนองค์ความรู้ที่ไม่มีการอัพเดทหรือปรับปรุง จะทำให้ความรู้ที่นักศึกษาเรียนไป กลายเป็นความรู้ที่ไม่อัพเดทหรือหมดอายุไปและยังเป็นทักษะที่ถูกแทนที่ได้ง่ายๆด้วย AI ผลคือเรียนจบแต่ตกงาน และยังคงยืนยันว่าทักษะด้านภาษาอังกฤษยังสำคัญมาก

Technology Disruption - AI - Robot

Technology Disruption - AI - Robot

Technology Disruption - AI - Robot

และท่านแนะนำให้จัดการศึกษาแบบ Life long learning จึงตอบโจทย์ยุคนี้มาก เพราะการศึกษาตลอดชีวิตจะทำให้เราเป็นเด็กอนุบาลตลอดเวลา เปิดรับสิ่งใหม่ๆจนเป็นนิสัย แม้ว่าการเรียนรู้ “เครื่องมือ” นั้นจะเปลี่ยนไปยังไง แต่เราจะปรับตัวได้เสมอ (เจอคำนี้อีกแล้วนะคะ แม่จิ๊บว่านำมาปรับกับลูกเราได้ดีมากๆค่ะ)

Technology Disruption - AI - Robot

และปิดท้ายในส่วนของอุดมศึกษา ถ้าถามว่าควรปรับตัวอย่างไรจึงจะอยู่รอดในยุค Technology Disruption วิทยากรให้ดูภาพนี้ค่ะ แล้วบอกว่า อะไรตัวโตและเห็นชัดที่สุดนั่นแหล่ะ คือสิ่งที่ต้องปรับอย่างเร่งด่วน

Technology Disruption - AI - Robot

 

ต่อไปเป็นความคิดเห็นของแม่จิ๊บ แม่คิดว่าสำหรับมหาวิทยาลัยต้องปรับตัวดังนี้ (ปล.ความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ)

1.หลักสูตรต้องปรับให้ทันความต้องการโลก

ปรับเป็น open university รองรับผู้ที่ไม่ได้ต้องการปริญญาแต่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีหลายสิบล้าน

2.การทำงานของบุคลากรฝ่ายรับนักศึกษาสำคัญอันดับ 1

ต้อง one stop services มีจิตบริการและทนทานต่อแรงกระทบ บริการตั้งแต่ต้นจนจบ ปิดจ๊อบได้ (ไม่ใช่รอให้ นักเรียนที่อยากมาเรียนหรือ นศ.มาง้อ หรือต่อสายไป 4-5 ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปแถมสายหลุดอีก ตึ๊ดๆ บายยยย)

3.การสร้างแบรนด์ที่ดี สร้างสรรค์ ภาพลักษณ์โดนใจวัยนักศึกษาในศตวรรษที่ 21

ตลาดการศึกษาต้องการอะไร เราก็ต้องปรับตาม ถ้ายังไม่ปรับ คุณก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

4.กิจกรรมในมหาวิทยาลัยควรมีแก่นจริงๆและสร้างสรรค์

จัดเพื่ออะไร และควบคุมให้ดี มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัยและไม่รุนแรง 

5.เลือกเอาว่าคุณจะปรับตัวเอง อยู่รอดเอง หรือให้กลไกโลกมันปรับให้ โดยไม่มีทางเลือก

เฮ่ลโหล่ววว โลกมันแบนแล้ว จามอยู่อเมริกาติดหวัดที่ไทย ทางเลือกทางการศึกษาแข่งกันทั่วโลกจ้า จีนติดปีกขยายประชากร เศรษฐกิจ การศึกษาไปยังมหาวิทยาลัยทั่วโลกเลย 

Technology Disruption - AI - Robot 

ในการเขียนบทความอันยาวเหยียดส่งท้ายปี 2562 นี้ แม่จิ๊บขอให้เป็นของขวัญพิเศษสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีหัวอกเดียวกัน คือ….มีลูกเจนอัลฟ่า เจนที่มาพร้อมโลกดิจิทัล เจนที่ความอดทนต่ำ เติบโตมาพร้อมการแวดล้อมด้วยจอ ….. แล้วการศึกษาของลูกเราจะไปทิศทางไหนดี

(ปัจจุบันแม่จิ๊บให้ลูกเรียนโรงเรียนทางเลือกและแบบ Home School ค่ะ ซึ่งคิดว่าตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างพอสมควร มีข้อมูลมากมายที่ทำแล้วเอาประสบการณ์มาเขียนเป็นสเต็ปไว้ให้ที่นี่นะคะ {EP.15} Homeschool ตอนพิเศษ 5Ps Must do แจกไฟล์ HS ตั้งแต่เริ่มต้น-ประเมินผล พร้อมไทม์ไลน์ใน 1 ปี |Yimwhan Family|)

แม่จิ๊บคิดว่าเรา “เติบโตทางความคิดและเรียนรู้ไปด้วยกัน” น่าจะเป็นคำที่เหมาะกับการเรียนในยุคนี้ บางอย่างเราสอนลูก บางอย่างลูกสอนเรา ฟังวิทยากรท่านไหนก็บอกคำเดียวกันคือ “Lifelong Learning และการปรับตัว”  สำหรับพ่อแม่ยุคนี้ อยากเล่าเหลือเกินว่า “ครอบครัวยังสำคัญที่สุดและขอยืนยันว่าการสร้างลูกให้รู้จักหาคำตอบเอง เรียนรู้เองตั้งแต่ 0-5 ขวบปีแรก ลูกจะฟอร์มนิสัยนี้ติดตัวไปตลอดชีวิต” การเรียนในระบบไหนก็สามารถสร้าง Future Skill ได้ สำคัญที่ความคล่องตัวของพ่อแม่และความเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิตต่างหากที่เราควรสอนลูก 

Technology Disruption - AI - Robot

ทำไมเราถึงสอนทักษะบางอย่างลูกไม่ได้ เรื่องราวของอายุขัยของความรู้ ถูกสำรวจโดยทางบริษัทซี (SEA) จับมือกับ World Economic Forum ทำแบบสำรวจคนรุ่นใหม่อายุ 15-35 ปี 56,000 คนทั่วอาเซียน ที่ถือได้ว่าเป็นแบบสำรวจเยาวชนอาเซียนที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ได้ผลว่า “อันดับ 1 ความรู้ที่เรียนมาเกือบใช้ไม่ได้แล้ว และอันดับ 2 คือใช้ได้ในอีก 5 ปี” 

Technology Disruption - AI - Robot

รวมถึงทักษะที่อยากมียังนำโด่งคือเรื่องภาษา เรื่องเทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์  ส่วนแหล่งที่คิดว่าจะได้ความรู้เหล่านี้ นอกจากมหาวิทยาลัยจะนำมาเป็นอันดับ 1 เทรนด์การตอบบอกไว้ว่า “มาจากนอกระบบโรงเรียน” นั่นหมายถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ทุกที่

Technology Disruption - AI - Robot

มีโอกาสได้ฟัง ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ จากสถาบัน TDRI พูดคุยจากรายการ The Standard ท่านเล่าเรื่องเม่นและจิ้งจอกไว้น่าสนใจมากค่ะ คุณจะสอนลูก จะชวนลูกเรียนรู้และเติบโตไปแบบไหน ในเมื่อโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

จะรู้ลึกแบบเม่น หรือ รู้กว้างแบบจิ้งจอกดี แล้วเมื่อความรู้ที่มีมันหมดอายุขัย คุณจะอัพเดทและเติมความรู้ให้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอได้อย่างไรในยุคนี้ (หลายคนเลือกที่จะกันเงินแต่ละเดือนไว้เรียนออนไลน์คอร์สที่ชอบเพื่อพัฒนาตัวเอง)

Technology Disruption - AI - Robot

และขอแปะหนังสือเล่มนี้ตามคำแนะนำของอาจารย์ให้ลองไปอ่านดูนะคะ “Lifelong Kindergarten อนุบาลตลอดชีวิต” ลองฝึกเป็นเด็กอนุบาลตลอดชีวิต เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต Lifelong Learning แค่คิดก็ตื่นเต้น มาปลูกนิสัยแบบนี้ไปพร้อมกับลูกๆเรานี่แหล่ะ 

Technology Disruption - AI - Robot

และขอปิดท้ายด้วยเรื่องราวของโลกออนไลน์ เขียนมายาวมากเรื่องชีวิตและการศึกษาที่ต้องปรับเพราะเทคโนโลยี ขอฝากทักษะเรื่องการเรียนรู้โลกออนไลน์ไว้ให้เด็กๆหน่อยนะคะ คุณวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้จัดการกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวไว้ดีมากค่ะ เราโตไปกับเทคโนโลยี ในขณะเดียวกันก็อย่าลืมว่าภัยที่มาในรูปแบบใหม่ๆโดยอาศัยเทคโนโลยี ก็เพิ่มระดับรูปแบบมาเช่นกัน

Technology Disruption - AI - Robot

การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ ระบบงานเปลี่ยน ทักษะที่เป็นงานประจำถูกแทนด้วย AI  การเรียนรู้ในยุคโลกแบน และแน่นอนภัยที่มาในรูปแบบออนไลน์

Technology Disruption - AI - Robot

 

ฝากด้วยความห่วงใยค่ะ ขอยกเอาคำพูด คุณสุภิญญา กลางณรงค์ อดีต กสทช. ที่ท่านกล่าวอย่างห่วงใยว่า “ในยุคดิจิทัล รู้ทันข่าวลวงต่างๆและปลูกฝังให้ตัวเราเองและลูกหลาน ใช้สื่อให้เป็น ใช้ให้ปลอดภัย ใช้ให้มีประสิทธิภาพและใช้อย่างรู้เท่าทัน ชัวร์ก่อนแชร์”

และฝึกเอ๊ะ! ทุกครั้งที่คุณได้อ่านข่าวสารหรือข้อมูลที่ไหลบ่ามาจากทุกทิศทุกทาง ไม่ว่าจะสื่อกระแสหลักหรือจากสื่อบุคคล และรู้จักรักษาข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง แม้แต่บทความชิ้นนี้ของแม่จิ๊บ แม้จะมีข้อมูลอ้างอิงมากมาย แต่ก็อย่าเชื่อไปทั้งหมดนะคะ ฝึกไตร่ตรองให้เป็นนิสัย ด้วยความปรารถนาดีจากแม่จิ๊บ หนึ่งในพลเมืองดิจิทัลของโลกใบนี้

ปล.เป็นประโยชน์โปรดแชร์และเซฟเก็บไว้อ่านได้เลยนะคะ แม่จิ๊บยินดีอย่างยิ่งค่ะ

Technology Disruption - AI - Robot

 

**follow us**

เพจ : เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ

Instragram : yimwhanfamily

เว็บไซต์ : www.yimwhanfamily.com

Youtube : Yimwhan Family

อีเมลล์ : [email protected]

Line Id : @yimwhanfamily

 

Finland - baby - kids - read

 

Finland - baby - kids - read

 

 

 

Author: Yimwhanfamily

Yimwhan Family แบ่งปันเรื่องราวแม่มือใหม่เลี้ยงลูกเชิงบวก ที่จัดการศึกษาทางเลือกในแบบ Life Long Learning สร้างเด็กรักการอ่าน (Read to Grow) และท่องเที่ยวสไตล์เด็กและครอบครัว โดย Real Mom "แม่จิ๊บ" Working Mom ที่มีความฝัน และ Passion คือ "เลี้ยงลูกให้โตไปกับหนังสือ"